Category Archives: สาธิตปทุมวัน

สอบพรีเทส สาธิตปทุมวัน 27 ตุลาคม 2567

1. ขั้นตอนการสมัคร

การสมัครสอบ Pre- test สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของโรงเรียนสาธิตปทุมวัน คลิกที่นี่  โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  • ลงทะเบียน: นักเรียนสามารถเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของโรงเรียน แล้วคลิกเลือกเมนู “สมัครสอบพรีเทส” 

  • กรอกข้อมูล: กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเกิดโรงเรียนที่ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษา และข้อมูลการติดต่อผู้ปกครอง ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร อัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง

  • ชำระค่าสมัคร: หลังกรอกข้อมูลเสร็จสิ้น ระบบจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระค่าสมัคร โดยมีวิธีการชำระผ่านธนาคารหรือชำระผ่านระบบออนไลน์ จากนั้นอัพโหลดหลักฐานการชำระเงิน สามารถตรวจสอบสถานะการชำระเงินหลังชำระ 2 – 3 วันทำการ

     
  • พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ: พิมพ์บัตรประจำตัวผู้สอบในระบบได้วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 ในบัตรประจำตัวผู้สอบจะบอกเลขที่นั่งสอบ ห้องสอบ อาคารสอบ ให้ปริ้นติดตัวไปในวันสอบด้วย

 

2. วันสอบ วิชาสอบ ประกาศผล

วันสอบ: ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 08.30 – 15.20 น. ณ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน

วิชาสอบ: 5 วิชา คณิต วิทย์ ไทย สังคม ภาษาอังกฤษ

  • คณิตศาสตร์ 50 ข้อ 45 นาที
  • วิทยาศาสตร์ 50 ข้อ 45 นาที
  • ภาษาไทย 50 ข้อ 45 นาที
  • สังคมศึกษา 50 ข้อ 45 นาที
  • ภาษาอังกฤษ  50 ข้อ 45 นาที

ประกาศผลสอบ : 12  พฤศจิกายน 2567

** หมายเหตุ
การสอบพรีเทสโรงเรียนสาธิตปทุมวัน ไม่ว่าน้องๆจะเข้าภาคปกติ หรือ EPTS (English Program for Talented Students) จะสามารถสอได้ 5 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ 

ในช่วงเช้า สอบ 4 วิชา วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
ในช่วงบ่าย  สอบ 1 วิชา วิชา ภาษาอังกฤษ 

 
หลังการสอบ นักเรียนจะได้รับลำดับที่  2 แบบ ได้แก่
1. ลำดับที่จากคะแนน T รวม 4 วิชา ประเมินความสามารถในการสอบเข้าในหลักสูตรปกติ
2. ลำดับที่จากคะแนน T รวม 5 วิชา  ซึ่งรวมถึงวิชาภาษาอังกฤษที่สอบช่วงบ่าย สำหรับนักเรียนที่สนใจหลักสูตร  EPTS
 
ลำดับที่ทั้ง 2 แบบนี้จะเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองใช้เพื่อพิจารณาถึงโอกาสการสอบเข้าในภาคปกติหรือ EPTS มากกว่ากัน เพื่อจะได้สมัครสอบจริงได้ตรงประสิทธิภาพสูงสุด (สมัครสอบจริงต้องเลือก หลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งเท่านั้น)

3 สิ่งที่ต้องเตรียมในการสอบพรีเทส วันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้
 
1. การแต่งกาย : นักเรียนต้องแต่งกายด้วยชุดนักเรียนให้เรียบร้อย
2. เอกสารประจำตัว : กรุณานำบัตรประจำตัวผู้สอบ พร้อมบัตรนักเรียนหรือบัตรประชาชนเพื่อแสดงตน
3. อุปกรณ์การเขียน : เตรียมปากกา ดินสอ 2B และยางลบให้พร้อม

**ผู้ทดสอบจะต้องนำบัตรประจำตัวสอบพร้อมบัตรประชาชนหรือบัตรนักเรียนมาแสดงต่อผู้คุมสอบด้วยมิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทดสอบถ้าผู้ทดสอบทำบัตรหายหรือลืมนำบัตรประจำตัวสอบมาในวันทดสอบขอให้มาติดต่อเจ้าหน้าที่ณกองกลางห้องสำนักอำนวยการอาคารสาธิตปทุมวันหนึ่งชั้นหนึ่งเพื่อออกบัตรแทนทั้งนี้จะต้องเสียค่าออกบัตรแทนใบละ 20 บาท


บรรยากาศการสอบ

บรรยากาศการสอบพรีเทสที่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ขอบคุณรูปจาก Facebook โรงเรียน คลิกดูที่นี่  การสอบพรีเทสนี้จำลองสถานการณ์จริงเพื่อให้นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์การสอบในสภาพแวดล้อมที่มีผู้สอบจำนวนมากและต้องเผชิญกับแรงกดดันในการแข่งขัน บรรยากาศนี้จะช่วยให้น้องๆ สามารถปรับตัวและจัดการกับความกังวลได้ดีขึ้นเมื่อถึงวันสอบจริง

สรุปเนื้อหาจบครบใน 1 เล่ม

สรุปเนื้อหาขั้นเทพ !!   พร้อมปั้นเด็กเก่งในทุกวิชา!

คอร์สออนไลน์ 7 วิชาของเราจัดมาให้ครบ จบทุกเนื้อหาสำคัญที่ต้องรู้สำหรับการสอบเข้า ม.1 ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน หรือสาธิตประสานมิตร

รับรองว่าครบถ้วนทั้งความรู้และเทคนิคการทำข้อสอบแบบเจาะลึกจากคุณครูผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 13 ปี!

คอร์สนี้ประกอบด้วยวิชาหลักทั้ง 7 วิชา:
📘 คณิตศาสตร์ – เจาะทุกโจทย์ที่ออกบ่อย พร้อมทริคในการแก้ปัญหา
🔬 วิทยาศาสตร์ – สรุปเนื้อหาหลัก ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อย่างเข้าใจง่าย
📝 ภาษาไทย – เข้าใจหลักการใช้ภาษา เน้นประเด็นสำคัญที่ออกสอบบ่อย
🌍 สังคมศึกษา – สรุปสาระสำคัญทั้งประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศาสนา และหน้าที่พลเมือง
✏️ ภาษาอังกฤษ – ครอบคลุมไวยากรณ์ คำศัพท์ และการอ่านเข้าใจ พร้อมเทคนิคการตอบคำถาม
🧮 คณิต (ฉบับอังกฤษ) – สำหรับคนที่อยากเสริมความรู้คณิตศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ
🔬 วิทย์ (ฉบับอังกฤษ) – เน้นวิทยาศาสตร์ภาคอินเตอร์ เรียนรู้เนื้อหาวิทย์แบบสากล

เข้าใจว่าการเตรียมสอบอาจทำให้หลายคนเครียด หรือมีเวลาน้อยในการอ่านหนังสือหลายเล่ม คอร์สนี้จะช่วยประหยัดเวลาให้คุณ ด้วยการสรุปเนื้อหาที่เข้มข้นในแต่ละวิชา แถมยังมีเทคนิคเฉพาะตัวที่จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น

✨ ที่พิเศษไปกว่านั้น เรามี ตัวอย่างหน้าหนังสือเรียน แต่ละวิชาให้ดูกันฟรีๆ เพื่อให้มั่นใจว่าคอร์สนี้ใช่สำหรับคุณ! เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการทบทวนเนื้อหาหรือผู้ที่อยากทำความเข้าใจเนื้อหายากๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าคุณจะเริ่มอ่านจากวิชาไหน คอร์สนี้ช่วยให้คุณพร้อมก้าวสู่สนามสอบอย่างมั่นใจ มาร่วมเตรียมความพร้อมไปด้วยกัน! 🚀

–วิทยาศาสตร์–

–คณิตศาสตร์–

–ภาษาไทย–

–สังคมศึกษา–

–ภาษาอังกฤษ–

–คณิต (ฉบับอังกฤษ)–

–วิทย์ (ฉบับอังกฤษ)–

“โค้งสุดท้ายก่อนสอบคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ทุกนาทีมีค่า
และความพยายามในวันนี้จะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า”

ขอขอบคุณผู้ปกครองที่ให้ Bigbrain เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักไปถึงเป้าหมาย ด้วยคอร์สสรุปเนื้อหาที่ครบถ้วนและเทคนิคที่ตรงจุด

อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ! เหลือเวลาอีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น

รีบสมัครแล้วมาเตรียมความพร้อมไปด้วยกัน
พิชิตสนามสอบนี้ไปพร้อมๆ กัน! 🌟

Pre-Test สาธิตประสานมิตร หลักสูตรปกติ

ระเบียบการรับสมัคร


หลักสูตร Trilingual Plus+  สาธิตประสานมิตร

 

รับสมัครสอบ:  วันที่  25 ธันวาคม 2566 – 8 มกราคม 2567  
วันสอบ :  วันที่ 28 มกราคม 2567
ประกาศผล : 21 กุมภาพันธ์ 2567

1. สมัครสอบ Pre-Test แบบออนไลน์ที่เว็บไซต์โรงเรียนสาธิตประสานมิตร

น้องๆต้องกรอกรายละเอียดทั้งหมด 3 ช่อง

1. เลือกข้อมูลที่ต้องการใช้ระหว่าง บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport)
2. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ของนักเรียน)
3. กรอกรหัสความปลอดภัย พิมพ์ตามตัวอักษรในช่องสีน้ำเงินได้เลย

ในปีนี้เป็นปีแรกที่มี 2 หลักสูตรให้เลือกคือ Trilingual Program รูปแบบการเรียนรู้ไตรภาษา หรือ Trilingual Program – Science รูปแบบการเรียนรู้ไตรภาษา-วิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ 

(เลื่อนไปทางขวาดูขั้นตอนการสมัคร)

Trilingual Program – Science รูปแบบการเรียนรู้ไตรภาษา-วิทยาศาสตร์สร้างสรรค์  คืออะไร? 

## เน้น วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) หรือ เรียกว่า STEM
และ เน้นทำ Project ลงมือทำจริง  แต่วิชาอื่นๆก็จะเหมือนกับรูปแบบการเรียนรู้ไตรภาษา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่


หลักสูตร ปกติ / EPTS  สาธิตปทุมวัน

รับสมัครสอบ:  วันที่  5-18 มกราคม 2567 
วันสอบ : วันที่ 27 มกราคม 2567
ประกาศผล : 13 กุมภาพันธ์ 2567

1. สมัครสอบ Pre-Test แบบออนไลน์ที่เว็บไซต์โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

สิ่งที่ต้องเตรียมในการสมัคร
1. ไฟล์รูปถ่ายนักเรียน
2. ไฟล์รูปถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
3. ไฟล์รูปถ่ายหรือสแกน หลักฐานการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเลือกอัปโหลดเอกสาร อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
– ใบรับรองการเป็นนักเรียนชั้น ป.6
– ใบแสดงผลการเรียน
– สำเนาสมุดรายงานผลการเรียน ชั้น ป.6


(เลื่อนไปทางขวาดูขั้นตอนการสมัคร)

คำชี้แจง
1. นักเรียนโรงเรียนนานาชาติหรือสถาบันการศึกษาใดที่เรียน 3 ภาคเรียน ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และไม่สามารถนำหลักฐานการจบการศึกษามามอบให้โรงเรียนภายใน 31 พฤษภาคม 2567 ในวันและเวลาราชการ จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการมอบตัวเป็นนักเรียนของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน หากมาดำเนินการโดยผิดเงื่อนไข จะถือว่าการมอบตัวเป็นโมฆะ และไม่มีการคืนเงินหรือดำเนินการใดๆทั้งสิ้น

2. นักเรียนที่มอบตัวเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ต้องเข้าร่วมกิจกรรมก่อนเปิดภาคเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามประกาศ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เรื่อง การสอบวัดความพร้อมเพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2567 (ข้อ 11) ได้ครบถ้วนเต็มตามเวลาที่กำหนด และมาเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ได้ครบถ้วนตามปกติ

3. นักเรียนและผู้ปกครองกรุณาอ่านรายละเอียดตามเอกสารที่แนบให้เข้าใจครบถ้วนก่อนดำเนินการสมัคร
เอกสารแนบ


หลักสูตรปกติ สาธิตประสานมิตร

รับสมัครสอบ:  วันที่  10 – 26 มกราคม 2567  
วันสอบ :  วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567
ประกาศผล : 21 กุมภาพันธ์ 2567


1. สมัครสอบ Pre-Test แบบออนไลน์ที่เว็บไซต์โรงเรียนสาธิตประสานมิตร

น้องๆต้องกรอกรายละเอียดทั้งหมด 3 ช่อง

1. เลือกข้อมูลที่ต้องการใช้ระหว่าง บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport)
2. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ของนักเรียน)
3. กรอกรหัสความปลอดภัย พิมพ์ตามตัวอักษรในช่องสีน้ำเงินได้เลย

(เลื่อนไปทางขวาดูขั้นตอนการสมัคร)


ค่าสมัครสอบนักเรียนทั่วไป 1,000 บาท
นักเรียนทั่วไปที่มีความสามารถพิเศษและนักเรียนที่มีความความต้องการพิเศษ 2,000 บาท
—————–
1.ประเภทนักเรียนทั่วไป
2.นักเรียนทั่วไปที่มีความสามารถพิเศษ
ด้านกีฬา , หมากกระดาน , ด้านนาฏศิลปไทยประเภท “โขน และ ละคร”  , ด้านดนตรีสากล  , ด้านดนตรีไทย 
3.นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ 

สรุปตารางสอบเข้าม.1 สาธิต ปี 2567

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

สมัครสอบ Pre-Test สาธิตปทุมวัน

Pre-test สาธิตปทุมวัน

รับสมัครสอบ:  วันที่ 4 – 18 ตุลาคม 2566 (สมัครในรูปแบบระบบออนไลน์)
วันสอบ :  วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566
ประกาศผล : วันที่ 14 ธันวาคม 2566

สมัครสอบ Pre-Test ได้แล้ววันนี้  >>> คลิกที่นี่

1. สมัครสอบ Pre-Test แบบออนไลน์ที่เว็บไซต์โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

คลิกที่ “ใบสมัครสอบ” ได้เลย

(ตามรูปด้านล่าง)

2. กรอกข้อมูลทุกหัวข้อให้ครบถ้วนและถูกต้อง

ข้อมูลที่น้องๆ จะต้องกรอก แบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 ข้อมูลผู้สมัคร เป็นข้อมูลทั่วไปของน้องๆ เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ-นามสกุล วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และ E-Mail รวมถึงชื่อโรงเรียนที่เรียนอยู่ น้องๆสามารถพิมพ์คำขึ้นต้น และเลือกโรงเรียนที่ขึ้นอยู่ในระบบได้เลยค่ะ หากไม่พบสามารถเพิ่มเชื่อโรงเรียนได้เองเลย คลิกที่ปุ่ม “ไม่พบชื่อโรงเรียน”

ส่วนที่ 2 ข้อมูลครอบครัว จะเป็นข้อมูลทั่วๆไปของผู้ปกครอง สามารถเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ก็ได้

ส่วนที่ 3 อัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง จะต้องอัพโหลดไฟล์รูปภาพ 2 ไฟล์ 
1. ภาพถ่ายชุดเครื่องแบบนักเรียน (รูปติดบัตร)
2. ภาพถ่ายบัตรประชาชน 

(ตามรูปด้านล่าง)

ส่วนที่ 1 ข้อมูลผู้สมัคร

ส่วนที่ 2 ข้อมูลครอบครัว

ส่วนที่ 3 อัพโลหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง

หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ  กดถัดไปจะมี “ใบสรุปข้อมูลการสมัคร”
ขึ้นมา น้องๆต้องอ่านเช็คข้อมูลให้ถูกต้อง
หากมีข้อมูลส่วนไหนผิดสามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้
แต่หากกดยืนยันไปแล้ว จะไม่สามารถกดแก้ไขได้

3.  ชำระค่าสมัครสอบ Pre-Test 1,000 บาท

ค่าสมัครสอบ Pre-Test ของสาธิตปทุมวันจะอยู่ที่ 1,000 บาท
น้องๆ สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชำระค่าสมัครเรียนที่เว็บไซต์ของโรงเรียน และพิมพ์แบบฟอร์มมาชำระเงินได้เลย

การชำระเงิน สามารถชำระโดยแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) โดยการแสกนคิวอาร์โค้ดชำระได้ทันที ฟรีค่าธรรมเนียม

 

(ตามรูปด้านล่าง)

หากชำระเงินเสร็จแล้วสามารถต้องแนบสลิปการโอนด้วยนะคะ และให้รูปอัพโหลด 100%  จากนั้นตรวจสอบสถานะการชำระเงิน และพิมพ์ใบเสร็จได้ภายใน 2 วันทำการ 

(ตามรูปด้านล่าง)

4.  พิมพ์บัตรประจำตัวผู้สอบ

หากตรวจสอบสถานะการชำระเงินและสถานะขึ้นว่า “เรียบร้อยแล้ว” สามารถพิมพ์บัตรข้อมูลผู้สอบได้เลย 

(ตามรูปด้านล่าง)

นี่ก็เป็นวิธีการสมัครสอบ Pre-Test ของสาธิตปทุมวันปีล่าสุด สมัครออนไลน์ทางเว็บไซต์ของทางเรียน ง่ายนิดเดียว หากน้องๆคนไหนสนใจอย่าลืมไปลงทะเบียนกันนะคะ

  • น้องๆ ที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นป.4 – ป.6

  • น้องป.4-ป.5 ควรไปสอบไหม?
    แนะนำให้ไปลองสอบ น้องๆจะได้ลองสนามสอบที่ใกล้เคียงของจริงที่สุด  เพื่อจะได้วางแผนการเตรียมตัวสอบให้ทันสำหรับปีที่สอบจริง รวมถึงได้ดูพัฒนาการของในแต่ละปีว่ามีการพัฒนาการในวิชาไหนบ้างและต้องเสริมในวิชาไหน

  • ทั้ง 2 หลักสูตร สอบได้ทั้ง 5 วิชา
    1. คณิตศาสตร์
    2. วิทยาศาสตร์
    3. ภาษาไทย
    4. สังคมศึกษา
    5. ภาษาอังกฤษ

– Pre-Test
✅สอบรวมกันทั้ง ปกติ และ EPTS
✅สอบทั้ง 5 วิชา 

– สอบจริง
✅ภาคปกติ สอบ 4 วิชา ไม่สอบ Eng
✅ภาค EPTS สอบทั้ง 5 วิชา

วิเคราะห์คะแนนสอบ Pretest สอบเข้าม.1

วิเคราะห์คะแนนสอบ Pretest สาธิตปทุมวัน

.
ผลการทดสอบพื้นฐานความรู้ของชั้นประถมปีที่ 4-6 ปีการ ศึกษา 2565 ที่สอบไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2565 ประกาศผลออกมาวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565
.
มีน้องบางคนที่ดีใจกับคะแนนสอบของตัวเองสมกับความพยายาม ความทุ่มเท ความตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงในช่วงเวลาที่ผ่านมา
.
มีน้องๆบางคนที่ตกใจกับคะแนนสอบของตัวเองอาจจะน้อยกว่าความตั้งใจและความพยายามของตัวเอง
.
วันนี้เราจะมาดู วิเคราะห์คะแนนสอบของโรงเรียนสาธิตปทุมวันปีล่าสุดกัน
จาก ผู้สมัครสอบทั้งหมด 1,939 คน มีจำนวนน้องๆที่เข้าสอบในช่วงเช้าได้แก่วิชาคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ภาษาไทยและ สังคมศึกษาจำนวน 1,720 คน
.
และน้องๆที่สอบในช่วงบ่ายวิชาภาษาอังกฤษจำนวน 1,607 คน
.
 

✔️วิชาคณิตศาสตร์ ข้อสอบทั้งหมด 25 ข้อคะแนนรวม 50 คะแนน
( 1 ข้อ 2 คะแนน) คะแนนมากที่สุด 19/25  , น้อยที่สุด 0/25
✔️วิชาวิทยาศาสตร์ ข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อคะแนนรวม 50 คะแนน
( 1 ข้อ 1 คะแนน) คะแนนมากที่สุด 38/50  , น้อยที่สุด 6/50
✔️วิชาภาษาไทย ข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อคะแนนรวม 50 คะแนน
( 1 ข้อ 1 คะแนน) คะแนนมากที่สุด 43/50  , น้อยที่สุด 2/50
✔️วิชาสังคมศึกษา ข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อคะแนนรวม 50 คะแนน
( 1 ข้อ 1 คะแนน) คะแนนมากที่สุด 38/50  , น้อยที่สุด 1/50
✔️วิชาภาษาอังกฤษ ข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อคะแนนรวม 100 คะแนน
( 1 ข้อ 1 คะแนน) คะแนนมากที่สุด 93/100  , น้อยที่สุด 12/100
—-
ถ้าดูคะแนนจากทั้งหมด 5 วิชา
คะแนนที่สูงที่สุดที่น้องๆทำได้จะเป็นวิชาภาษาอังกฤษเพราะมีน้องๆทำได้ถึง 93/100 คิดเป็น 93% รองลงมาจะเป็นภาษาไทยอยู่ที่ 86% และตามด้วยวิชาคณิต วิทย์และสังคมเป็นเปอร์เซ็นต์เท่ากันที่ 76%


การสอบสนามสอบใหญ่ จะเห็น ค่า T-Score ที่เป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ 
ใช้มาเป็นเกณฑ์ตัดสิน สำหรับสาธิตปทุมวัน หากสอบภาคปกติจะใช้ค่า T เฉลี่ย 4 วิชา เกิดจากค่า T ของวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา นำมารวมกันและหารด้วย 4 
และโปรแกรม EPTS จะใช้ค่า T 5 วิชา จะคิดวิชาภาษาอังกฤษเป็น 2 เท่าของวิชาอื่น 

 

T-Score เกิน 65% โอกาสสอบติดสูงมาก
ถ้า 70% สอบติดชัวร์

มาลงรายละเอียดที่ T-Score ของปีนี้กัน
**T-Score จะไม่เหมือนกันทุกปี**  ขึ้นอยู่กับคะแนนของผู้เข้าสอบ จำนวนผู้เข้าสอบ
ตัวเลขต่อไปนี้จะเป็นสำหรับการสอบที่ผ่านมาเท่านั้น (27/11/2565)


สังเกตว่าวิชาคณิตศาสตร์หากทำได้เพิ่ม 1 ข้อ (2คะแนน) คะแนนที จะเพิ่มมา 3.16

แต่หากทำภาษาไทยได้ 1 ข้อ คะแนนทีจะเพิ่มมา 1.49
—————-
อย่างนั้นเราควรทำและโฟกัสเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ดีหรือเปล่า?

#ใช่ค่ะ การทำ 1 ข้อในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอกาสที่จะได้ค่า T เพิ่มมีเยอะมากกว่าในวิชาภาษาไทยและสังคม แต่การเพิ่มคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ น้องบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากเพราะว่าไม่ได้ถนัดวิทย์และคณิตมากนัก แต่เก่งภาษาไทยและสังคม
เพราะฉะนั้นต้องสังเกตตัวเองก่อนว่าเราได้วิชาไหน และยังไม่ได้วิชาไหนเพื่อประเมินตัวเองคร่าวๆ และวางแผนว่าควรอ่านวิชาไหนก่อนดี
 
อ่านวิชาที่เก่งมากอยู่แล้วเพื่อเพิ่มเติมจุดแข็ง
หรืออ่านวิชาที่เก่งน้อย เพื่อพัฒนาจุดอ่อน
 
# วิชาที่เราถนัดต้องเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด รีบอ่านหนังสือทำโจทย์โดยบริหารจัดการเวลาอ่านให้สั้นกระชับและรวดเร็วที่สุด และรีบไปพัฒนาจุดอ่อนของเรา เพราะจุดอ่อนนี่แหละทำให้เกิดจุดแข็ง จะพลิกจากสอบติดมาเป็นสอบติด!!
——-
ช่วงเวลาโค้งสุดท้าย หนังสือรวบรวมข้อสอบเก่าย้อนหลังมาฝึกทำหลายรอบเน้น!!หลายรอบ เพื่อเพิ่มความถูกต้อง เพิ่มการทำได้ เพิ่มความเข้าใจ และใช้เวลาในการทำข้อสอบน้อยลง
เพราะข้อสอบจะออกแนวนี้ วิธีคิดประมาณนี้ จุดหลอกอยู่ตรงนี้ ยิ่งทำโจทย์เยอะ ยิ่งได้เปรียบ

 

เพิ่มเติมจุดแข็ง หรือ พัฒนาจุดอ่อน?

 
อ่านวิชาที่เก่งมากอยู่แล้วเพื่อเพิ่มเติมจุดแข็ง
หรืออ่านวิชาที่เก่งน้อย เพื่อพัฒนาจุดอ่อน
# วิชาที่เราถนัดต้องเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด รีบอ่านหนังสือทำโจทย์โดยบริหารจัดการเวลาอ่าน ให้สั้นกระชับ รวดเร็วที่สุด จากนั้นรีบไปพัฒนาจุดอ่อนของเรา เพราะจุดอ่อนนี่แหละทำให้เกิดจุดแข็ง จะพลิกจากสอบไม่ติดมาเป็นสอบติด!! มานับไม่ถ้วน
——-

สาธิตประสานมิตร ประกาศผลสอบวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ประกาศเฉพาะ ค่า T รวม และ ลำดับที่ได้ จะไม่มีการประกาศค่า T ของแต่ละวิชทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ค่า T ในแต่ละวิชาได้อย่างละเอียด
.
สามารถดูได้เพียงค่า T รวมของทั้ง 5 วิชาเท่านั้น จะไม่ได้มีแยกเป็นแบบหลักสูตรปกติ และ หลักสูตร Trilingual Plus+ เหมือนสาธิตปทุมวันที่แยกมาให้แต่ละรายวิชา และแยกลำดับที่เป็น 2 แบบ(หลักสูตรปกติและ EPTS)


* หมายเหตุ *
มาตรฐาน T หมายถึง ข้อมูลแต่ละชุดที่แปลงคะแนนดิบทุกจำนวนเป็นคะแนนมาตรฐาน
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนมาตรฐานชุดนั้นๆ ซึ่งคะแนน T เป็นคะแนนสอบทั้งกลุ่มมีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100หรือเปรียบเทียบในอัตราส่วน 100 เพื่อให้ทราบถึงลำดับของผู้สอบว่ามีลำดับสูงกว่าผู้สอบทั้งหมดกี่คน เมื่อเทียบเป็น 100 คน


ค่า T = 67 ตรงกับ 95.54%
มีคนสอบ 100 คน เราเหนือกว่าคนอื่น 96 คน

แสดงว่าเราสอบได้ที่ 4 

ตัวอย่างคะแนนดิบของแต่ละวิชา ของน้องที่ได้ค่า T 66.74 

 

มอบรางวัล Pre-Test สาธิตประสานมิตร

ยินดีกับน้องๆทั้ง 10 คนที่ได้รับรางวัลทุนการศึกษาพร้อมโล่และเกียรติบัตร
.
แสดงความยินดีกับน้องๆอีก 10 ท่านในรางวัลชมเชย
1. เด็กชายศุภกร ตันสกุล โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
2. เด็กชายกัณทร ลีลาสถาพรกูร โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร
3. เด็กชายมนพล ตั้งทางธรรม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายประถม) จังหวัดกรุงเทพมหานคร
4. เด็กหญิงวัชรีวรรณ ตันธนพิพัฒน์ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า จังหวัดกรุงเทพมหานคร
5. เด็กหญิงพิมญาดา สินศุภฤกษ์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายประถม) จังหวัดกรุงเทพมหานคร
6. เด็กชายอิทธิณัฐ แสงอิ่ม โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม จังหวัดกรุงเทพมหานคร
7. เด็กชายไวกูณฐ์ นันทิวัชรินทร์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการการศึกษาพหุภาษา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา จังหวัดชลบุรี
8. เด็กชายภูมิพัฒน์ คีรีวิเชียร โรงเรียนอนุบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม
9. เด็กหญิงลิปดา ศรียาสวิน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) จังหวัดกรุงเทพมหานคร
10. เด็กชายภัทร รัชตเสรีกุล โรงเรียนณ ดรุณ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

——-
คำแนะนำเพิ่มเติม ช่วงเวลาโค้งสุดท้าย หมั่นทำข้อสอบเก่าย้อนหลังมาฝึกทำหลายรอบ  เน้น!!หลายรอบ เพิ่มการทำได้ เพิ่มทำถูก เพิ่มความเร็ว เพิ่มความรอบคอบ เพราะข้อสอบจะออกแนวนี้ วิธีคิดประมาณนี้ จุดหลอกอยู่ตรงไหน เจอโจทย์ยากแค่ไหน ก็ไม่หวั่น เพราะเราฝึกฝนมาอย่างดีเยี่ยมนั่นเอง

 

ยิ่งทำโจทย์เยอะ ยิ่งได้เปรียบ

ตะลุยคลังข้อสอบเก่า ครบ 5 วิชา ใหม่ล่าสุด

ตะลุยโจทย์สอบเข้าม.1โรงเรียนสาธิต

ตะลุยโจทย์คลังข้อสอบเก่าย้อนหลังสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต

น้องๆหลายคนมีแพลน ที่จะสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตอาจจะยังไม่รู้แนวข้อสอบหรือลักษณะข้อสอบที่มีความยากและซับซ้อนกว่าโรงเรียนทั่วไป ทำให้น้องๆจะต้องฝึกฝน แบบฝึกหัดที่หลากหลาย จุดที่ข้อสอบชอบเอามาออกบ่อยๆ หรือแม้กระทั่ง ต้องรู้ทฤษฎีและเทคนิคในการทำข้อสอบ บางข้อรู้ทริคแค่นิดเดียว ก็ได้คำตอบทันที
บางข้อ เปลี่ยนมุมมองการคิด ก็ตอบได้ทันที เป็นเรื่องของการฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับศึกษาเนื้อหาเชิงลึกที่ใช้ในการสอบเข้า จะช่วยให้ทำโจทย์ได้คะแนนที่ดีขึ้น เข้าใจมากขึ้นได้ เป็นอย่างดีอีกด้วย

จับเวลาทำข้อสอบ 
วิทยาศาสตร์ 50 ข้อ เวลา 45 นาที
คณิตศาสตร์ 25 ข้อ เวลา 60 นาที
ภาษาไทย  50 ข้อ เวลา 45 นาที
สังคมศึกษา  50 ข้อ เวลา 45 นาที
ภาษาอังกฤษ 50 ข้อ เวลา 45 นาที
รวมทั้งหมด 225 ข้อ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง

คำถามที่เจอบ่อย
ผู้ปกครองหลายท่านช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสอบ จะถามว่าจะลงทะเบียนคอร์ส สรุปเนื้อหาขั้นเทพหรือว่าคอร์สตะลุยโจทย์ ยอดฮิตของสถาบันดี?
 
หากน้องๆทำโจทย์ ทั้ง 5 วิชาได้เกิน 80% สามารถลงคอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิตเพื่อเพิ่มเติมและฝึกฝนโจทย์ปัญหาและแนวข้อสอบเก่าได้เลย คอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิต” รวมโจทย์กว่า 1,800 ข้อ
.
แต่ถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 80% จะแนะนำทบทวนพื้นฐานเนื้อหา “คอร์สสรุปเนื้อหาขั้นเทพ” ควบคู่ไปพร้อมกับคอร์สตะลุยโจทย์ เพื่อเพิ่มเติมเนื้อหาพื้นฐาน สรุปรวมแบบครบทุกเรื่องที่ใช้สอบ พร้อมสอดแทรกเทคนิคการจำ สูตรที่ต้องรู้ ไว้ให้น้องๆ เข้าใจง่าย และเอาไปใช้ทำโจทย์ได้จริง


1. ข้อความใดถูกต้อง

ก.  เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น เสียงเดินทางผ่านอากาศได้เร็วขึ้น
ข.  เสียงเป็นคลื่นตามยาว ถ่ายทอดพลังงานไปโดยไม่อาศัยตัวกลาง
ค.  เสียงเป็นคลื่นตามขวาง ถ่ายทอดพลังงานไปโดยอาศัยตัวกลาง
ง.  เสียงเดินทางในตัวกลางสถานะของเหลวได้เร็วกว่าเดินทางในตัวกลางสถานะของแข็ง

ภาพตัวอย่างเฉลยข้อที่ 1 จากคอร์สออนไลน์ตะลุยโจทย์ยอดฮิต

ภาพตัวอย่างเฉลยข้อที่ 1 จากคอร์สออนไลน์ตะลุยโจทย์ยอดฮิต


ข้อใดเป็นการสื่อสารแบบอวัจนภาษา

1. เธอพูดกับฉันเรื่องขนม
2. แม่โบกมือเรียกพ่อ
3. ลุงตะโกนเรียกน้า
4. ฉันเขียนจดหมายลางาน


สังเวชนียสถานในข้อใดไม่ได้มีที่ตั้งอยู่ในประเทศอินเดียในปัจจุบัน

1. สวนลุมพินีวัน
2. พุทธคยา
3. สารนาถ
4. กุสินารา


“The sun shines bright over the lake.” The words
SHINES BRIGHT should be changed to: 

1.shines brightful 

2.shines brightly 

3.bright shine 

4. no change

สอบจริง สาธิตปทุมวัน 13 มีนาคม 2565

กำหนดการ สอบจริง สาธิตปทุมวัน ประจำปีการศึกษา 2565

สอบจริง สาธิตปทุมวัน ปีนี้จัดสอบที่โรงเรียน และ เปลี่ยนรูปแบบการสมัครจากเดิมต้องไปซื้อใบสมัครที่โรงเรียน มาการรับสมัครทางออนไลน์ ซึ่ง
10- 23 มกราคม 2565 สมัครทดสอบความรู้

12 มีนาคม 2565 พิมพ์บัตรประจำตัวผู้สอบ
13 มีนาคม 2565  ทดสอบความรู้
18 มีนาคม 2565  ประกาศผลสอบ

สามารถดูระเบียบการสอบเข้าปี 2565  ได้ที่นี่

การรับนักเรียนในปีการศึกษา 2565 จะมีนักเรียนทั้งหมด 3 กลุ่ม 

กลุ่มที่ 1 นักเรียนที่มีผลการสอบวัดความพร้อมผ่านเกณฑ์ จำนวนนักเรียนรับหลักสูตรปกติจำนวน 120 คนละหลักสูตร EPTS จำนวน 35 คน

กลุ่มที่ 2 นักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร(ฝ่ายประถม) จำนวนนักเรียนหลักสูตรปกติ 120 คน

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไปเพื่อการศึกษาและวิจัยและร่วมในการผลิตบัณฑิตจำนวนนักเรียนที่รับหลักสูตรปกติจำนวน 110 คนละหลักสูตร EPTS จำนวน 35 คน


โดยพิจารณาจากผลการสอบวัดความพร้อม

กลุ่มนี้จะมีโควต้านักเรียนทั้งด้านวิชาการ ดนตรี กีฬา โควต้า เหรียญทองวิชาคณิตวิทย์ รวมถึงสวัสดิการสำหรับบุคลากรมหาวิทยาลัยศิษย์เก่าข้าราชการทหารตำรวจ


ขั้นตอนตรวจสอบผลการสมัคร

1. เข้าสู่เว็บไซต์ http://admission.satitpatumwan.ac.th และเข้าสู่ระบบด้วย Username และ Password ของผู้สมัคร
2. ตรวจสอบสถานะการสมัครสอบที่เมนูสถานะการชำระเงิน เมื่อ
3. ตรวจสอบเลขประจําตัวผู้สอบ
สถานการณ์สมัครสอบเสร็จสมบูรณ์จะปรากฏเลขประจำตัวผู้สอบในเมนูสถานะการชำระเงิน
**สำหรับการพิมพ์บัตรประจำตัวผู้สอบและแจ้งรายละเอียดข้อปฏิบัติสถานที่สอบสามารถดำเนินการได้ระหว่างวันที่ 1-12 มีนาคม 2565**

น้องๆทุกคนไม่ว่าจะลงสมัครหลักสูตรปกติหรือหลักสูตร EPTS จะต้องสอบ 4 วิชาด้วยกันในช่วงเช้าตั้งแต่ 8:30 น จนถึง 11:55 น
.
แล้วสำหรับน้องที่สอบเข้าหลักสูตร EPTS จะต้องทดสอบวิชาภาษาอังกฤษในช่วงบ่ายด้วยเพื่อนำะแนนไปพิจารณารวมกับ 4 วิชาที่น้องๆได้สอบในช่วงเช้า

 8.30 – 9.00 คณิตศาสตร์ จำนวน 25 ข้อ
9.30 – 10.15 วิทยาศาสตร์ จำนวน 50 ข้อ
10.15 – 11.00 ภาษาไทย  จำนวน 50 ข้อ
11.00 – 11.45 สังคมศึกษา  จำนวน 50 ข้อ
——–
13.40 – 15.20 ภาษาอังกฤษ จำนวน 100 ข้อ

บรรยากาศการสอบเข้า

บรสอบสัมภาษณ์ วันที่ 19 มีนาคม 2565 เวลา 8.00-16.00 น. โดยแบ่งเป็นรอบๆ

กลุ่มที่ 1 รายชื่อนักเรียนที่สอบได้ตามเกณฑ์ จำนวน 120 คน
รอบที่ 1 เวลา  8.00-9.00 จำนวน 50 คน
รอบที่ 2 เวลา  9.00-10.00 จำนวน 50 คน
รอบที่ 3 เวลา 10.00-11.00 จำนวน 20 คน

กลุ่มที่ 2  รายชื่อนักเรียนจากสาธิตประสานมิตร จำนวน 110 คน
รอบที่ 1 เวลา  10.00-11.00 จำนวน 30 คน
รอบที่ 2 เวลา  11.00-12.00 จำนวน 50 คน
รอบที่ 3 เวลา 13.00-14.00 จำนวน 30 คน
กลุ่มที่ 3  รายชื่อนักเรียนที่ผ่านการพิจารณา จำนวน 120 คน
รอบที่ 1 เวลา  13.00-14.00 จำนวน 20 คน
รอบที่ 2 เวลา  14.00-15.00 จำนวน 50 คน
รอบที่ 3 เวลา 15.00-16.00 จำนวน 20 คน

คำถามหลักๆที่น้องๆเจอมา
1. บ้านอยู่แถวไหน ใครเป็นคนมารับ-ส่ง
2. คาดหวังอะไรกับโรงเรียนนี้ แล้วถ้าไม่เป็นดังที่คาดหวังล่ะ
3. ใครเป็นคนเลือกมาสอบที่นี่ ตัวเอง/ผู้ปกครอง
และคำถามอื่นๆที่ครูแต่ละคน จะถามต่างกันไปโดยดูจากแฟ้มสะสมผลงานของน้องๆ 


บรรยากาศการสอบสัมภาษณ์

8 วิธีสร้าง Portfolio โดดเด่นได้..ไม่เหมือนใคร

8 วิธีสร้าง Portfolio  โดดเด่นได้ไม่เหมือนใคร

 

สำหรับน้องๆที่เตรียมตัวยื่นแฟ้มสะสมผลงาน  สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต

.
มาเตรียมแฟ้มสะสมผลงานให้พร้อม เขียนยังไง? เตรียมอะไร? ต้องมีอะไรบ้าง?

 8 ส่วนประกอบหลัก

1.  หน้าปก
2.  เหตุผลที่อยากเข้า
3.  ประวัติส่วนตัว
4.  ประวัติการศึกษา
5.  กิจกรรมที่โดดเด่น
6.  เกียรติบัตรรางวัล
7.  ใบรับรองจากคุณครู
8.  หน้าปิดท้าย


ควรออกแบบให้มีความโดดเด่นน่าสนใจดึงดูดตาคณะกรรมการอาจจะออกแบบให้ตรงกับสีของโรงเรียน เข้ากับ Theme ของโรงเรียนที่น้องอยากจะเข้า
รูปที่ใช้เป็นหน้าปกควรเป็นรูปที่น้องๆสวมใส่ชุดนักเรียนและเห็นใบหน้าที่ชัดเจน ดูเป็นทางการ ใส่รายละเอียดให้ชัดเจนว่าต้องการสมัครเข้า โรงเรียนอะไรหลักสูตรไหน  พร้อมทั้งแจ้งประวัติส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ ชื่อ-นามสกุล ชื่อโรงเรียน เพื่อเป็นข้อมูลยืนยันตัวตน


บอกเล่า ความมุ่งมั่นความตั้งใจและความพยายามที่จะสอบเข้า มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนนั้น มีทัศนคติที่ดีต่อโรงเรียนในหลายๆด้านเช่น ด้านการเรียน ด้านกิจกรรม  โดยเขียนออกมาเป็นรูปแบบเรียงความแบบย่อ สั้น กระชับ ได้ใจความ ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ A4 ถ้าประโยคไหนหรือคำพูดไหน ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษสามารถไฮไลท์เพื่อดึงดูดสายตาของกรรมการได้


รูปใน portfolio ควรเป็นรูปชุดนักเรียนและเห็นใบหน้าชัดเจน (ไม่ควรใช้รูปเกิน 3 เดือน) ใส่ข้อมูลพื้นฐานของตัวเองให้ครบถ้วน ชื่อนามสกุล  ที่อยู่  อายุ  วันเกิด รวมถึงใส่ข้อมูลของ บิดา มารดา และที่ขาดไม่ได้คือความสามารถพิเศษ สิ่งที่สนใจ ความเชี่ยวชาญหรือความถนัดของน้องๆ
ข้อมูลที่ควรใส่จะต้องเป็นข้อมูลที่อัพเดทล่าสุดไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทร – อีเมล – ที่อยู่


ตั้งแต่ชั้นระดับอนุบาลประถมต้นประถมปลาย โดยใส่ชื่อของโรงเรียน ตราโรงเรียน รวมถึงเกรดเฉลี่ยสะสม ในแต่ละชั้นปีด้วย


น้องๆสามารถคัดเลือกกิจกรรมที่โดดเด่นที่น่าสนใจ โดยเรียงลำดับกิจกรรม จาก รางวัลใหญ่ไปรางวัลเล็กเพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกอ่าน โดยเลือกใช้รูปภาพที่เห็นตัวเองขณะทำกิจกรรมนั้นได้อย่างชัดเจน และบอกอธิบายรายละเอียดของกิจกรรม สั้นๆ ให้เข้าใจง่ายเห็นภาพ เช่น ชื่อกิจกรรมอะไร  จัดที่ไหน   วันที่เท่าไหร่ และหน้าที่ความรับผิดชอบของเรา รวมถึงถ้ามีรางวัลที่ได้รับสามารถใส่ลงไปได้ด้วย


รางวัลของน้องๆ อาจจะเป็นในด้านของวิชาการหรือเป็นในด้านของกิจกรรม  ดนตรี  กีฬา โดยเรียงจากรางวัลใหญ่ไปรางวัลเล็ก  เช่นการแข่งขันระดับประเทศ  ระดับจังหวัด  ระดับเขต  ระดับโรงเรียน โดยเขียนคำบรรยายใต้ภาพว่าชื่อกิจกรรมเป็นกิจกรรมอะไรจัดขึ้นที่ไหน วันที่เท่าไหร่และได้รับรางวัลอะไรบ้าง


เป็นส่วนอ้างอิงที่จะมีหรือไม่มีก็ได้  น้องๆสามารถให้คุณครูประจำชั้น  คุณครูที่ปรึกษา  เขียนจดหมายบรรยายถึงพฤติกรรม  นิสัยบุคลิกภาพ  ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ผลการเรียนของน้องๆ เมื่ออยู่ที่โรงเรียน โดยมีลายเซ็นคุณครูกำกับไว้ชัดเจนและน้องๆสามารถสแกนเก็บเป็นไฟล์เพื่อนำมาใช้ ในการสมัครหรือว่ายื่นที่โรงเรียนอื่นได้


มีคำกล่าวที่ว่า  “เริ่มต้นต้องจับจิต..ลงท้ายต้องจับใจ”
เพราะฉะนั้นหน้าปิดท้ายของน้องๆสามารถใส่ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่นขอบคุณค่ะ หรือ คติประจำใจ เพื่อให้ portfolio เล่มนี้สมบูรณ์มากขึ้นจบเล่มด้วยความสวยงามและประทับใจกรรมการมากกว่าเดิม


เพิ่มเติมหัวข้อที่ 5
สำหรับน้องๆที่สอบเข้าหลักสูตร “ปกติ” สาธิตประสานมิตร
กิจกรรมที่น้องๆเคยเข้าร่วมเน้นเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมหรือด้านจิตอาสา แต่ถ้าหากเป็นกิจกรรมทางด้านวิชาการที่น้องๆเคยเข้าร่วมแข่งขันจะต้องมีภาพถ่ายและเกียรติบัตรในการเข้าร่วม โดยที่กิจกรรมทุกประเภทจะต้องย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี โดยคะแนนกิจกรรมที่ได้ 1 กิจกรรมต่อ 1 คะแนน

เพราะฉะนั้นทำกิจกรรมให้ได้ครบ 5 กิจกรรม!!


สำหรับน้องๆที่สอบเข้าหลักสูตร “ปกติ” สาธิตประสานมิตร
คะแนนสอบคิดเป็น 90% แฟ้มสะสมผลงานคิดเป็น 10%


สำหรับน้องๆที่สอบเข้าหลักสูตร “Trilingual Plus+” สาธิตประสานมิตร
คะแนนสอบคิดเป็น 70%
แฟ้มสะสมผลงานคิดเป็น 15%
คลิปแนะนำตัวภาษาอังกฤษ 15%
โดยทางโรงเรียนจะแจ้งรายละเอียดการอัพโหลด วันที่ 24 ธันวาคม 2564

 


Update เพิ่มเติม

  • ปีการศึกษา 2566 (ไม่มีเกณฑ์คะแนน แฟ้มสะสมผลงาน)
  • ปีการศึกษา 2567 (ไม่มีเกณฑ์คะแนน แฟ้มสะสมผลงาน)
  • ปีการศึกษา 2568 (รออัพเดตอีกครั้ง)

อัพเดท ล่าสุด สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต

อัพเดทวันสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปี 2565

สำหรับน้องๆและผู้ปกครองที่จะเตรียมตัวสอบเข้าม.1 ในปีการศึกษานี้ ที่จะสอบตอนช่วงมกราคา -กุมภาพันธ์ของทุกปี แต่เนื่องด้วยสถาณการณ์โควิด ทำให้ไม่มีความแน่นอนในเรื่องของวันที่ในการจัดสอบ รวมถึงขั้นตอน ระเบียบปฏิการสอบที่เป็นการสอบที่โรงเรียนหรือว่าจะเป็นการสอบออนไลน์ เพราะฉะนั้นจึงต้องคอยติดตาม อัพเดท จาก website โรงเรียนเรื่อยๆ

สาธิตประสานมิตรมักจะสอบก่อนสาธิตปทุมวันแทบทุกปี

กำหนดการสอบปทุมวันปี 2564

**อ้างอิงจากปีล่าสุด ให้ผู้ปกครองดูเป็นแนวทางเท่านั้น**

สำหรับภาค SPIP ของสาธิตประสานมิตรและโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั้งภาคพิเสษและภาคทั่วไป ก็จะสอบไม่พร้อมกัน เพราะฉะนั้นน้องๆจึงสามารถสอบได้ทัั้งหมด 4  สนาม (สอบไม่ตรงกันเลย)

👉สนาม 1 ” สาธิตประสานมิตร” สอบช่วงต้น เดือน กุมภาพันธ์ ของทุกปี
👉สนาม 2 “สาธิตปทุมวัน” สอบช่วงกลาง เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
👉สนาม 3 “gifted และ ep ของรร สพฐ.” สอบต้นเดือนมีนาคม ของทุกปี
👉สนาม 4 “รอบทั่วไป ของ รร.สพฐ” ใช้คะแนน onet เข้ามาคิดด้วย (ปีล่าสุดคือยกเลิกแล้ว) สอบช่วงปลายเดือนมีนาคม ของทุกปี

ปีล่าสุดที่สอบ 2564
สาธิตประสานมิตร 20 กุมภาพันธ์ 2564
สาธิตปทุมวัน        20 มีนาคม 2564
gifted EP             3  เมษายน 2564
รอบทั่วไป             1 พฤษภาคม 2564

วันที่ 18 พฤศจิกายน facebook และ website ของโรงเรียนได้ประกาศ ระเบียบการสอบเข้าม.1

โครงการทดสอบความรู้ PSM Test (รูปแบบการเรียนรู้ปกติ) เพื่อพิจารณานักเรียนเข้าศึกษาต่อ ม.1 ปีการศึกษา 2565
💢 รับสมัครตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2564
ทางเว็บไซต์โรงเรียนที่นี่
โดยปีนี้มีวิชาที่ใช้สอบเพียง 4 วิชาเท่านั้น 
1. ภาษาอังกฤษ 40 นาที
2. คณิตศาสตร์  50 นาที
3. วิทยาศาสตร์  40 นาที
4. ประวัติศาสตร์ไทย  20 นาที


วันนี้ – 6 ธันวาคม 2564
: สมัครทดสอบความรู้ทาง www.spsm.ac.th

19 ธันวาคม 2564 :  ทดสอบความรู้ PSM test รูปแบบการเรียนรู้ปกติ ทุกกลุ่ม
29 ธันวาคม 2564 :  ประกาศผลการทดสอบความรู้ PSM test
10-16 มกราคม 2565 : ยิ่นแฟ้มสะสมผลงาน
31 มกราคม 2565 : ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาเข้าศึกษาต่อระดับชั้นม.1 

ข้อมูลจาก web โรงเรียน ล่าสุด 19/11/2564

แจ้งรายละเอียดเฉพาะหลักสูตร Trilingual Plus+ เท่านั้นที่มีการสอบไปช่วงวันที่ 7/11/2564 และมีการประกาศผลวันที่ 15/11/2564 ในรายละเอียดหลักสุตรปกติ จะยังไม่มีแจ้ง ทั้งวัน pretest และวันสอบจริง 
———————————-
วันที่ 18 พฤศจิกายนทางโรงเรียนได้ออกระเบียบการสมัคร
และมีการสอบจริงในวันที่ 19 ธันวาคม 2564
น้องๆสามารถสมัครได้ที่ https://www.spsm.ac.th/home/

ข้อมูลจาก web โรงเรียน ล่าสุด 10/01/2565

สอบ pretest 

วันที่รับสมัคร :: ไม่มี

สอบจริง

รับสมัครผ่านระบบออนไลน์  : 10-23 มกราคม 2565
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ : 1-12 มีนาคม 2565
วันสอบวัดความพร้อมฯ  : 13 มีนาคม 255
ประกาศผลการสอบวัดความพร้อมฯ  : 18 มีนาคม 2565
สอบสัมภาษณ์นักเรียนและผู้ปกครอง  : 19 มีนาคม 2565
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการพิจารณาเป็นนักเรียนชั้นม.1 : 21 มีนาคม 2565
วันมอบตัวนักเรียน  :  23 มีนาคม 2565
—————-
📌ศึกษารายละเอียดการสอบได้ทางเว็บไซต์โรงเรียน ที่นี่
 
ตารางสอบสาธิตปทุมวันม.1


ดูรายละเอียดระเบียบการสอบเข้าสาธิตปทุมวัน

1. การรับสมัครนักเรียน 
2. คุณสมบัติ และพื้นฐานความรู้ของผู้สมัคร
3. การสมัครสอบ
4. กำหนดการสอบและข้อปฏิบัติในการเข้าสอบ
5. การประกาศผลทดสอบ
6. การสอบสัมภาษณ์
7. การประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับพิจารณา
8. การมอบตัวเข้าเป็นนักเรียน

 

ทดลองเรียนออนไลน์ 30 วันได้ที่นี่

ทดลองเรียน 30 วัน

ทดลองเรียนตัวอย่างคอร์สออนไลน์ 
ฟรี เอกสารประกอบการเรียน PDF
ฟรี สอบถามเพิ่มเติมไลน์ส่วนตัวหาคุณครูได้โดยตรง
ฟรี เรียนซ้ำทบทวนได้ใน 30 วัน
สมัครได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน ใช้เวลา ไม่ถึง 2 นาที เริ่มเรียนได้ทันที
1. กรอกข้อมูลลงทะเบียน
2. แจ้งลงทะเบียนทางไลน์
3. เริ่มเรียนได้ทันที

สำหรับน้องชั้นป.5

มีเอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 4 วิชา  จากคุณครูทั้ง 4 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูมาย , สังคมศึกษา ครูข้าวฟ่าง
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สำหรับน้องชั้นป.6

เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 5 วิชา  จากคุณครูทั้ง 5 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูเอก , สังคมศึกษา ครูเฟลม , ภาษาอังกฤษ ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สำหรับน้องที่จะสอบเข้า SPIP

เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 3 วิชา  SCIENCE ครูแอม ,MATH ครูปุณ , ENGLISH  ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สำหรับน้องป.6 โค้งสุดท้าย

คอร์สสรุปเนื้อหาขั้นเทพ : เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอการเรียนการสอน ครบทั้ง 5 วิชา  จากคุณครูทั้ง 5 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูเอก , สังคมศึกษา ครูเฟลม , ภาษาอังกฤษ ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

คอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิต : เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF รวมข้อสอบกว่า 225 ข้อ พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 5 วิชา  จากคุณครูทั้ง 5 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูเอก , สังคมศึกษา ครูเฟลม , ภาษาอังกฤษ ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สาธิตปทุมวัน ภาคปกติสอบอังกฤษไหม?

สาธิตปทุมวันสอบอังกฤษ

ผู้ปกครองหลายท่านถามเข้ามาว่า สาธิตปทุมวัน ภาคปกติสอบอังกฤษไหม ?

ก่อนอื่นต้องท้าวความไปถึงปี 2563 ก่อนว่าช่วงนั้น ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า สาธิตปทุมวันจะสอบภาษาอังกฤษในภาคปกติด้วยเป็นปีแรก กระแสข่าวนี้ออกมาประมาณช่วงเดือนตุลาคมปี 2563 จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมามากมาย สาธิตปทุมวัน ภาคปกติสอบอังกฤษไหม ? แล้วข้อสอบจะสอบเหมือนภาค EPTS รึเปล่า ? 

และเนื่องด้วยสถานการณ์ covid มีผลต่อการสอบ Pre-Test และสอบจริงที่โดยปกติจะ มีการสอบในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกๆปีทำให้โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ปกติจะมีการสอบ Pre-Test ตอนเดือนมกราคมปี 2564 ได้ทำการทดสอบ Pre-Test เป็นปีแรก มีเฉพาะสอบจริงเท่านั้น ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564
ก่อนอื่นต้องท้าวความไปถึงปี 2563 ก่อนว่าช่วงนั้น ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า สาธิตปทุมวันจะสอบภาษาอังกฤษในภาคปกติด้วยเป็นปีแรก กระแสข่าวนี้ออกมาประมาณช่วงเดือนตุลาคมปี 2563 จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมามากมาย สาธิตปทุมวัน ภาคปกติสอบอังกฤษไหม ?
สาธิตปทุมวัน ภาคปกติสอบอังกฤษไหม

ในปี 2564 นี้มีกระแสข่าวเรื่องการสอบวิชาภาษาอังกฤษ ในภาคปกติมาอีกเช่นเดียวกัน ดูได้จากปฏิทินงานโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวันประกาศณวันที่ 27 สิงหาคม 2560 4 ในลำดับที่ 15 (ดังรูป) ช่วง 13.20 น ถึง 15.20 น จะมีการทดสอบภาษาอังกฤษทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตร EPTS  ทำให้ผู้ปกครองและน้องๆหลายคนเริ่มเตรียมตัววิชาภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสอบเข้าสาธิตปทุมวันปีนี้เป็นปีแรก

ภาคปกติสาธิตปทุมวันสอบอังกฤษไหม
ด้วยความกังวลความกลัวของผู้ปกครองหลายๆท่านว่าแนวข้อสอบกี่ข้อ ข้อสอบจะเป็นแบบไหน?
เป็นข้อสอบฉบับเดียวกันเหมือนหลักสูตร EP หรือเปล่า?
มีเกณฑ์ในการคิดคะแนนยังไง?
หลากหลายคำถาม ที่ผู้ปกครองสงสัย และไม่มีใครให้คำตอบนี้ได้เช่นกัน
 
แต่ทุกคำถามที่ไม่มีคำตอบ ผู้ปกครองและน้องหลายท่านก็ดีใจเมื่อเห็นประกาศปฏิทินงานโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวันเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 ในลำดับที่ 14 ช่วงบ่ายจะเป็นการสอบภาษาอังกฤษเฉพาะโครงการ EPTS เท่านั้น 
สาธิตปทุมวัน ภาคปกติสอบอังกฤษไหม

บทสรุปสุดท้ายแล้วว่าจะมีสอบภาษาอังกฤษหรือไม่?
ในภาคปกติก็ต้องรออัพเดทในปฏิทินการศึกษา หรือรอระเบียบการ ที่เป็นทางการออกมา ชี้แจงอีกที แต่ทางสถาบันจะมาอัพเดทข้อมูลการสอบเข้าให้กับน้องๆอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงและกังวลนะจร้า
——–
ในวันที่ 5 มกราคม 2565 ทางโรงเรียนได้ออกมาคอนเฟิร์ม ยืนยัน สำหรับปีการศึกษา 2564 นี้ ที่จะมีการสอบเข้าม.1 ในวันที่ 13 มีนาคม 2565 ภาคปกติ จะไม่มีการสอบวิชาภาษาอังกฤษ

จะเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม 2565 
น้องๆทุกคนที่สอบเข้าภาคปกติ และภาค EPTS จะต้องสอบ
วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา
—————
น้องที่สอบเข้า EPTS จะต้องสอบภาษาอังกฤษในช่วงบ่าย 

ตารางสอบสาธิตปทุมวันม.1

เจาะลึก 60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1 ใน 18 หัวข้อ

วันนี้ครูโอชินจะมาแชร์  60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1 ที่ครูโอชินรวบรวมประสบการณ์การสอนเด็กมาหลายพันคน สอนมามากกว่า 8 ปี สอนวิชาคณิตศาสตร์วิชาเดียวเท่านั้นได้รวบรวมความรู้ มาแชร์น้องๆ รวมทั้งหมด 60 ประเด็น ในคอร์สออนไลน์สรุปเนื้อหาขั้นเทพวิชาคณิตศาสตร์ ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะเป็น 7 ชั่วโมงแต่พออัดวีดีโอไปเรื่อยๆครูโอชินมีอะไรที่จะสอนเด็กๆเยอะมาก สรุปอัดไป อัดมาจบที่  11 ชั่วโมงเต็ม สามารถดูตัวอย่างการสอนได้ที่นี่

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1

เรามาดูกันดีกว่า ว่า 60 ประเด็น นี้อยู่ในหัวข้อไหนในวิชาคณิตศาสตร์กันใน 18 หัวข้อนี้ 

1.  การบวกลบคูณหารจำนวนเต็ม
2. ตัวประกอบของจำนวนนับ ค.ร.น. ห.ร.ม.
3. เศษส่วน
4.  ทศนิยม
5.  สมการ
6.  มุมและเส้นขนาน
7.  รูปสามเหลี่ยม
8.  รูปสี่เหลี่ยม
9.  รูปวงกลม
10.  ปริมาตรทรงสามมิติ 
11.  บัญญัติไตรยางค์
12.  ร้อยละและอัตราส่วน
13.  แผนภูมิ
14.  สถิติและความน่าจะเป็น
15.  เลขยกกำลัง
16.  สามเหลี่ยมคล้าย
17.  พีทาโกรัส
18.  คู่อันดับและกราฟ
60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1


ครูโอชินจะแชร์
60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1 นี้ ว่ามีเนื้อหาไหนที่ต้องรู้ เรื่องไหนที่ต้องจำ เรื่องที่ว่าเน้น เรื่องที่ว่าออก อันไหนทริค อันไหนเทคนิค พรีเมี่ยมที่สุด กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว  รวมถึงยกตัวอย่างโจทย์ในแต่ละประเด็น มาให้น้องๆได้ดูเป็นตัวอย่าง ว่าเอาไปใช้กับโจทย์อะไรได้บ้าง  บอกเลยว่า เอาไปใช้สอบได้จริง ไม่จิงโจ้ นะจร้า เด็กๆ

 

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1


ประเด็นที่ 1 สมบัติการแจกแจง
เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นสมบัติของจำนวนเต็มทั่วไปที่มีอยู่ 3 สมบัติคือสมบัติการสลับที่ ,  สมบัติการเปลี่ยนหมู่ , สมบัติการแจกแจง
แต่พอเอามาประยุกต์ในการทำโจทย์ของจริง เราจะใช้สมบัติการแจกแจงมาช่วยในการหาคำตอบ ของโจทย์ข้อนี้ โดยเราเปลี่ยนจาก 99,999,999 เป็น 100,000,000 – 1 และเราเอา 99,999,999 คูณกระจาย/แจกแจงเข้าไป ก็จะช่วยให้คิดเลขได้ง่ายขึ้นเปลี่ยนจากการคูณเลข 8 หลักกับเลข 8 หลัก เป็นเพียงการลบเลขธรรมดาเท่านั้นเราก็จะได้คำตอบออกมา แบบนี้
= 99,999,999 x 99,999,999
= 99,999,999 x ( 100,000,000 – 1  )
= 9,999,999,900,000,000 – 99,999,999 
9,999,999,800,000,001
ผลบวกเลขโดด มีค่าเท่ากับ 72 

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1


ประเด็นที่ 2 Order of operations
การเรียงลำดับความสำคัญของเครื่องหมาย  หัวข้อนี้ดูเหมือนจะง่ายแต่พอเด็กเจอก็จะคิดผิดหลายต่อหลายคน เพราะน้องๆไม่รู้ว่าถ้าเครื่องหมายติดกัน  เราต้องคิดเครื่องหมายอันไหนก่อน ครูโอชินให้เทคนิคว่า เราต้องเริ่มจาก >> วงเล็บ  >>ยกกำลัง >>คูณ >>หาร >>บวก >>ลบ (ถ้าเจอคูณกับหารติดกัน..ทำจากซ้ายไปขวา)  แต่ข้อนี้ไม่มีวงเล็บเราจึงเริ่มทำที่เลขยกกำลังก่อนได้เลย คือ 3 กำลัง 2 กับ 5 กำลัง 2 จากนั้นเราคิด 18 / 3 x  2 = 12
= 10 x 9 – 2 + 12
= 100

60 ประเด็น คณิต


ประเด็นที่ 3 การ Operation จำนวน
หัวข้อนี้น้องๆจะเห็นสัญลักษณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นรูปดอกจัน  รูปสามเหลี่ยมหรือรูปสี่เหลี่ยม  แต่ไม่ต้องตกใจไป  เพราะให้อะไรมาก็ทำแบบนั้น  ข้อนี้โจทย์ถามหา (10*)*เราแทนทุกที่ที่มี a ด้วย 10 ได้เลย
10* = (10 x 10 ) + 10
10* = 110
ทำให้ (10*)* = 110*
110* = (110 x 110 ) + 110
110* = 12,210

รวมประเด็นคณิตสอบเข้าม.1


ประเด็นที่ 4 การหาจำนวนเสา/จำนวนต้น (รูปเปิด)

ถนนหน้าบ้านครูโอชินยาว 10 เมตรปักเสาห่างกัน 2 เมตรจะต้องใช้เสากี่ต้น ( 5 ต้น /6 ต้น ) เด็กส่วนใหญ่ตอบมา 5 ต้น ใครตอบ 5 ต้นมาเอาสูตรนี้จากครูโอชินไปเลย
I___I___I___I___I___I
ถ้าเราดูจากรูป สังเกตว่าจะมีเสาทั้งหมด 6 ต้นระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้นคือ 2 เมตร
 
(จุดสังเกตุ สูตรนี้ จุดเริ่มต้นกับจุดสุดท้าย ไม่เป็นจุดเดียวกันเลยต้องบวก 1 เข้าไปด้วย) โจทย์ข้อนี้ให้ความยาวให้จำนวนต้นมาแล้วน้องๆสามารถหาระยะห่างโดยเอาไปแทนค่าในสมการได้เลย

26 = 325/ห่าง + 1
25 = 325/ห่าง
ห่าง =  13 เมตร

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1


ประเด็นที่ 5 การหาจำนวนเสา/จำนวนต้น (รูปปิด)

หัวข้อนี้จะคล้ายกับหัวข้อด้านบนโดยจุดแตกต่างคือจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายคือจุดเดียวกันสูตรที่ใช้จึงไม่ต้องบวก 1 ถ้าเป็นข้อนี้เราจึงใช้ความยาวรอบรูปหารด้วยระยะห่างได้เลย

ความยาวรอบรูปที่ดินพี่โอชิน  = 56 เซนติเมตร
จำนวนต้น = 56/4
ใช้ต้นไม้ทั้งหมด =  14 เมตร

60ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1

 

ประเด็นที่ 6 การหาลำดับ และ ผลบวกตัวเลข
 
สูตรนี้ฮอตฮิตมากไม่รู้ไม่ได้แล้ว!! เพราะข้อสอบสาธิตเอามาออกแทบจะทุกปีเลย เป็นการหาลำดับตัวเลข และผลบวกตัวเลข โจทย์ข้อนี้ให้หา
จำนวนที่อยู่ระหว่าง 500 ถึง 1,000 มีกี่จำนวนที่หารด้วย 3 หรือ 5 ลงตัว
 
ข้อนี้น้องๆจะต้องแบ่งออกเป็น 3 step และมีจุดที่ต้องระวังคือคำว่า”ระหว่าง” คำว่าระหว่างเราจะไม่เอาตัวเลขที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลังเราจะเอาตัวเลขเฉพาะที่อยู่ตรงกลาง
 
step 1  หาจำนวนที่อยู่ระหว่าง 500 ถึง 1000 ที่หารด้วย 3 ลงตัว
501 , 504 , … , 999 = 167 จำนวน
step 2  หาจำนวนที่อยู่ระหว่าง 500 ถึง 1,000 ที่หารด้วย 5 ลงตัว
505 , 510 , … , 995 = 99 จำนวน
step 3  หาจำนวนที่อยู่ระหว่าง 500 ถึง 1,000 ที่หารด้วย15 ลงตัว
(น้องๆจะสังเกตเห็นว่าใน step 1 และ 2 จะมีตัวเลขที่ซ้ำกันอยู่ 510 , 525 เราเลยต้องลบออก นั่นคือ ค.ร.ม. ของ 3 และ 5 คือ 15 )
510 , 525 , … , 990 = 33 จำนวน
เพราะฉะนั้น 167 + 98 – 33  = 232 จำนวน
(สูตรที่ใช้ จำนวนตัว = (ปลาย – ต้น)  / ห่าง   + 1  )

 

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม1

 

ประเด็นที่ 7 จำนวนเฉพาะ 1-100

เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายที่เด็กๆไม่ควรมองข้าม ครูโอชินนำตัวอย่างโจทย์มาให้น้องๆดูเรียบร้อยแล้วถ้าใครท่องจำนวนเฉพาะได้บอกเลยว่าข้อนี้มองปุ๊บรู้คำตอบปั๊บ แต่ถ้าใครท่องไม่ได้ก็จะต้องมานั่งดูทีละตัวเลขว่าข้อไหนไม่ถูกต้อง จํานวนเฉพาะ 1-100 มี 25 จำนวน  2 , 3 ,  5 , 7 , 11 , 13 , 17  , 19 , 23 ,  29 ,  31 ,  37 , 41 , 43 ,  47 ,  53 ,  59 ,  67 , 67 ,  71 , 73  ,  79  , 83  , 89  ,97
ข้อนี้จึงตอบ ข้อ 2 เพราะว่า 2 เป็นจำนวนเฉพาะ

 

60 ประเด็นคณิตสอบเข้าม.1

 

ประเด็นที่ 8 หาจํานวนตัวประกอบ

คำว่าตัวประกอบคือจำนวนที่หารลงตัวเช่น 20 มี 1 , 2 , 4 , 5 ,10 , 20 เป็นตัวประกอบ โดยครูโอชินได้สอoว่าการหาจำนวนตัวประกอบ ใช้ “การท่องสูตรคูณไปเรื่อยๆเริ่มจาก 1 จนกว่าจะซ้ำ” เช่น
20 = 1 × 20 ,  20 = 2 × 10 ,  20 = 4 × 5
20 จึงมี 1 , 2 , 4 , 5 ,10 , 20 เป็นตัวประกอบ

แต่ถ้าเป็น 3,000 ครูโอชินจะบอกว่า “ขี้เกียจคิด” เพราะว่าเราสามารถใช้สูตรจะเร็วกว่า ถูกต้องกว่า คิดเลขน้อยกว่า
3,000 = 2×2×2×3×5×5×5 = 2^3 ×3^1×5^3 = 4 x 2 x 4 = 16 จำนวน

การหาผลบวกตัวประกอบ


ประเด็นที่ 9 หาผลบวกตัวประกอบ


จากประเด็นที่ 8 ถ้าเราหาผลบวกตัวประกอบของ 20 จะได้ 1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 เท่ากับ 32 
แต่ถ้าหาผลบวกตัวประกอบของ 100 สามารถหาได้ 2 วิธี
1. หาตัวประกอบของ 100 ก่อน จากนั้นนำมาบวกกันก็ได้
1 + 2 + 4 + 10 + 25 + 50 + 100 = 217
2. ใช้สูตรในประเด็นที่ 9 นี้  100 = 2 × 2 × 5 × 5 = 2^2 × 5^2 = (1+2+4) × (1+5+25) = 7 x 31 = 217
คำตอบจะเท่ากัน คือ 217

โจทย์ปัญหาห.ร.ม.

ประเด็นที่ 10 การแบ่งตัดจัดให้เท่ากัน
 
โจทย์ปัญหาห.ร.ม. แบบนี้ เด็กๆจะต้องระวัง ถ้าครูโอชินมีช้อยให้น้องๆ 2 ข้อคือ 15 ท่อนหรือ 9 ท่อน คำถามนี้หลอกเด็กมานักต่อนัก ตกม้าตายกันเป็นแถว  เพราะว่าตอบ 15 ท่อน (ห.ร.ม. 30 ,45 ,60 คือ 15)
 
โจทย์ข้อนี้ตัวเลข 30 45 60 เซนติเมตร ห.ร.ม. ที่ได้ คือ 15 หน่วยที่ออกมาเป็นเซนติเมตร เราก็ต้องเอาไปหารต่อถึงจะได้คำตอบ 30/15 = 2 ท่อน ,  45/15 = 3 ท่อน ,  60/15  =4 ท่อน  รวม 9 ท่อน
(ข้อนี้คิด 2 ชั้นถึงได้คำตอบนะจ๊ะเด็กๆ  โจทย์ปัญหาสอบเข้าม.1 สาธิตเรื่องห.ร.ม. ชอบออกแบบนี้ซะด้วย ดังนั้นห้ามพลาด)


อยากเรียนก่อน

อยากรู้เพิ่ม 
อยากมีเวลาทบทวน
สมัครเรียนตอนนี้ เริ่มดูได้ทันที

ตัวอย่างเอกสารประกอบการเรียน

สรุปเนื้อหา 5 วิชา ที่ใช้สอบเข้าม.1

สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1

สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต
“ครบ 5 วิชาที่ใช้สอบ”

น้องๆบางคนเตรียมตัวไม่ทัน หรือมีเวลาเตรียมน้อย สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1 ก็เป็นสิ่งที่น้องๆจะพลาดไม่ได้ หรือจะช่วยได้เยอะมากๆ น้องๆที่จะเตรียมตัวสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตในปีนี้หรือในปีข้างหน้า น้องส่วนใหญ่จะเรียนเนื้อหาในช่วงประถมปลาย มานานถึง 3 ปี  (ชั้นป. 4 – ป.6) ความรู้ที่ใช้ในการสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตนี้จะเป็นการรวบรวมความรู้ในชั้นประถมปลายรวมถึงเนื้อหาหัวข้อในระดับชั้นมัธยมต้นรวมอยู่ด้วยน้องๆจึงต้อง มีพื้นฐานที่แม่นและครบทุกเรื่อง ในแต่ละวิชาที่ใช้สอบ เพื่อที่จะได้ต่อยอดเรียนรู้เนื้อหาที่เกินหลักสูตรช่วงชั้นมัธยมต้น เพื่อทำคะแนนสอบ เข้าม.1 โรงเรียนสาธิตได้ให้ติด 1 ใน 100 คน

 
และมีน้องๆหลายคนรวมถึงผู้ปกครอง สอบถามกันเข้ามาเยอะมากว่ามีเนื้อหาและหัวข้ออะไรที่ใช้ ในการสอบเข้าม. 1 โรงเรียนสาธิตบ้างรวมถึงหัวข้อที่เกินหลักสูตร   วันนี้แอดมินรวบรวม สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1 ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่จะมาช่วยน้องๆในระยะเวลาอันสั้นนี้ได้อย่างมาก
 


 Live ย้อนหลังที่คุณครูทั้ง 5 ท่านของสถาบัน  มาแชร์ความรู้กับน้องๆ ตลอดช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ในหน้าเพจ Facebook ของสถาบัน  แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 week
Week ที่ 1 “สรุปหัวข้อที่ใช้ในการสอบเข้าม. 1” 

Week ที่ 2 “เจาะลึกเนื้อหาที่ใช้สอบ part 01”
Week ที่ 3 “เจาะลึกเนื้อหาที่ใช้สอบ Part 02”
Week ที่ 4 “ตะลุยโจทย์ตัวอย่างข้อสอบเข้าม.1”
กับคุณครูโอชิน,ครูแอม,ครูเอก,ครูเฟรม,และครูโอริโอ้


MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน”

https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/568733720734317/
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/271492070667825/
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/934564380374722/
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/691420291403496/
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/691420291403496/
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 1 ได้ที่รูปด้านบน

 


MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน” VDO โดนบล็อค ไม่สามารถดูได้
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/310355753308280/
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/537479480263423/
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/1879134045556604/
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/585291975723960/
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 2 ได้ที่รูปด้านบน


MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/3302839333116555/
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/748327169040299/
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/258651692060431/
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/2341937972777238/
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/278480833354113/
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 3 ได้ที่รูปด้านบน

MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน”
https://www.facebook.com/…/a.54071372…/3071523636264887/
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/1997019580433055
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/657891551474770
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/686332312214680
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/4270594212951547
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 4 ได้ที่รูปด้านบน

 

เรียนคอร์สตัวเต็ม สรุปเนื้อหาขั้นเทพ ครบ 5 วิชา 

✔️ ซื้อเล่มนี้เล่มเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อเล่มอื่นๆ
✔️ อ่านเล่มนี้เล่มเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปอ่านหนังสือหลายๆเล่ม
✔️ สรุปประเด็นที่ออกข้อสอบบ่อยๆ เน้น เนื้อหา แน่นๆ
เนื้อหาตรงเป๊ะ กับข้อสอบสอบเข้าม. 1 มากที่สุด
✔️ เป็นคอร์สที่ขายดีที่สุดของสถาบัน เรียนแล้วมากกว่า 500 คน
✔️ วิชาละ 7 ชั่วโมง รวม 5 วิชา ทั้งหมด 35 ชั่วโมง
 
หากดูวันละ 5 ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น
และหลังจากนั้นกลับมาดูซ้ำทบทวนได้ตลอด
 
ดูรายละเอียดคอร์สสรุปเนื้อหาขั้นเทพ ได้ที่นี่ 

เรียนคอร์สตัวเต็ม ตะลุยโจทย์ยอดฮิต

 
✔️ คอร์สพลิกชีวิตที่เปลี่ยนจากสอบตกเป็นสอบติด
✔️ ตะลุยคลังข้อสอบเก่า 10 ปีย้อนหลัง รวม 5 วิชา กว่า 1,800 ข้อ
✔️ สกัด ย่อย เฉพาะเรื่องที่ออกบ่อยๆ แนวข้อสอบฮิตๆ
เอามารวมไว้ในคอร์สนี้แล้ว
✔️ คอร์สที่ทุกคนให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไม่มีหัก น้องๆบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าข้อสอบ “ตรงเป๊ะมาก”
✔️ วิชาละ 12 ชั่วโมงเต็ม เป็นโจทย์ล้วนๆ พร้อมเฉลยละเอียด บอกเทคนิควิธีคิด สูตรลัด
การตัดช้อย เช็คช้อย รู้ทริคเทคนิคลับเพียบ
✔️ หยิบมาใช้เพียงไม่กี่ทริค ก็พลิกคะแนนได้อย่างมหาศาล
 
รายละเอียดคอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิตได้ ที่นี่ 

สรุปข่าวสังคม สอบเข้าม.1 สาธิตปทุมวัน

สรุปข่าวสอบเข้าม.1

ข่าวสังคมสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

สังคมศึกษาหนึ่งในวิชาที่ใช้สอบเข้าม 1 โรงเรียนสาธิตปทุมวันแบ่งออกเป็นทั้งหมด 50 ข้อโดยทุกๆปี 10 ข้อสุดท้ายจะเป็นในเรื่องของความรู้และเหตุการณ์ในปัจจุบันที่สำคัญตลอดระยะเวลา 1 ปี ” ข่าวสังคมสอบเข้าม.1 ” ก่อนถึงวันสอบ

ข่าวและเหตุการณ์สำคัญเป็นข้อที่ปราบเซียนของน้องๆเลยก็ว่าได้เพราะถ้ารู้ก็สามารถตอบได้เลยถ้าไม่รู้ก็ไม่สามารถตอบได้เรียกได้ว่าถ้าอ่านและเตรียมตัวมาดีสามารถเก็บคะแนน 10 ข้อนี้ได้อย่างแน่นอน วันนี้ครูเฟลมจะมา สรุปข่าวปีล่าสุดที่น้องๆสอบไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มาสรุปตัวอย่างเป็นประเด็นให้น้องๆ ได้ดูกันว่ามีหัวข้ออะไรที่ต้องรู้หัวข้อไหนที่โจทย์ชอบเอาไปออกแอบมากระซิบ ข้อสอบจริง ปีล่าสุด กันนิดนึงดีกว่าปี 2564 ข้อสอบ สังคม ใน part ของข่าว และเหตุการณ์ปัจจุบัน
 
เกรตแบร์ริเออร์รีฟ คืออะไร ?
ประธานาธิบดีของสหรัฐที่เคยมาไทยคือใคร?
 
เห็นไหมล่ะว่าถ้ารู้ก็ตอบได้เลยถ้าไม่รู้ก็ต้องเดาแล้วแหละว่าตอบว่าอะไร
ครูเฟรมจะมาสรุประเด็นให้ฟังจากปีล่าสุด ว่ามีอะไรบ้าง
โดยเอาตัวอย่างมาจากคอร์สออนไลน์สรุปข่าวสำหรับสอบเข้าปี 2564 มาให้น้องๆดูกัน น้องๆสามารถดูตัวอย่างคอร์สออนไลน์สรุปเนื้อหาได้ ที่นี่ คลิก

 

 
จากรูปด้านบนน้องๆจะเห็นตัวอย่างข้อสอบสังคมเข้าม. 1 โรงเรียนสาธิตปทุมวันกันเรียบร้อยแล้วลองมาดูตัวอย่างเพิ่มเติม กับอีก 7 ข้อ ที่ครูเฟลมเอามาฝากกันดีกว่า

แต่อย่าลืมนะจ๊ะว่าเป็นข้อสอบของปี 2563 น้องๆสอบกันตอนกุมภาพันธ์ 2564  ส่วนใครที่จะสอบเข้าม 1 โรงเรียนสาธิตตอนปี 2565 จะต้องเป็นคอร์สสรุปข่าว ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนช่วงเดือนมกราคมตอนปี 2565 เพื่อครูเฟลมจะได้อัพเดทข่าวและเหตุการณ์ที่สำคัญสำคัญภายในปี 2564 ให้ได้ทั้งหมดก่อนน้องๆจะได้มีความรู้เพื่อเอาไปทำโจทย์ 10 ข้อสุดท้ายในวิชาสังคม

 

1. “อาเซียน +6” ก็คือ การรวมกลุ่มกันของ ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศรวมกับประเทศที่อยู่นอกอาเซียนอีก 6 ประเทศ

1.จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ศรีลังกา
2.จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, เนปาล
3.จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อินเดีย
4.จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ปากีสถาน

2.  โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่ม เกษตรทฤษฎีใหม่ หน่วยงานใดเป็นผู้ดำเนินการ

1.สำนักปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2.กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
3.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
4.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร องค์การมหาชน

3.  พายุไต้ฝุ่นที่พัดขึ้นถล่มเกาะญี่ปุ่นทางตอนใต้ วันที่ 7 ก.ย.2563 มีชื่อว่าพายุอะไร

1.พายุฮีโกส
2.พายุไมสัก
3.พายุบาหวี่
4.พายุไห่เฉิน

4.  การเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 พรรคเดโมแครตประกาศเสนอชื่อใครเป็นผู้ชิงตำแหน่ง

1.ดอนัลด์ ทรัมป์
2.แทมมี่ ดักเวิร์ธ
3.ไมก์ เพนซ์
4.โจ ไบเดน

5. กระทรวงสาธารณสุขรัสเซียได้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 มีชื่อว่าอะไร

1.Sputnik V
2.ChAdOx1nCoV-19
3.CHULA-Covid19
4.Moderna

6.  ผู้ใดกระทำการประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตราใด

1.มาตรา 116
2.มาตรา 110
3.มาตรา 256
4.มาตรา 112

7.  การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2563 ตรงกับวันที่เท่าไหร่

1. 3 พฤศจิกายน 2563
2.11 พฤศจิกายน 2563
3.15 พฤศจิกายน 2563
4. 7 พฤศจิกายน 2563

8. ทหารสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาร่วมฝึกในไทยช่วงเดือน ส.ค. 63 มีจำนวนกี่นาย

1.121 นาย
2.110 นาย
3.111 นาย
4.120 นาย
 

9. เว็บไซต์ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด –19) กระทรวงมหาดไทย คือข้อใด

1.www.moph.go.th
2.www.อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ.com
3.www.moicovid.com
4.www.ddc.moph.go.th
 

10. ชาติที่จะส่งยานอวกาศไปส ารวจดาวอังคารภายในเดือนกรกฎาคม 2563 คือข้อใด

1.สหรัฐอเมริกา จีน และรัตเซีย
2.สหรัฐอเมริกา จีน และสหราชอาณาจักร
3.สหรัฐอเมริกา จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
4.สหรัฐอเมริกา จีน และสหภาพยุโรป

64 ประเด็นวิทย์ สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต

วิทย์สอบเข้าม.1

วันนี้ครูแอมจะมาแชร์ความรู้ ” 64 ประเด็นวิทย์ สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต “

คอร์สนี้ครูแอมตั้งใจทำ และรวบรวมมาได้ทั้งหมด 64 ประเด็นวิทย์ สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต ซึ่งอยากให้ความรู้กับน้อง ๆ ที่จะเตรียมตัวสอบเข้าม. 1 โรงเรียนสาธิตโดยเฉพาะ 

น้องบางคน..เรียนเยอะจนจำไม่ได้
น้องบางคน..ชอบลืมเนื้อหาตรงโน้นไปบ้าง
น้องบางคน..ไม่รู้ว่าจะอ่านตรงไหนดี
น้องบางคน..ไม่รู้ว่าข้อสอบออกตรงไหน
น้องบางคน…ไม่รู้ว่าจะจำยังไงดี

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อมาเรียนกับครูแอม 

“คอร์สสรุปเนื้อหาวิทยาศาสตร์ ขั้นเทพ”

คอร์สนี้ครูแอมได้รวบรวมเนื้อหาตั้งแต่ชั้นป.4 – ป.6 รวมไปถึงเนื้อหาเกินหลักสูตร ตรงไหนที่ว่าออก ตรงไหนที่เด็กชอบโดนหลอก ตรงไหนที่ออกสอบทุกปี ครูแอมเอามาเน้น เอามาย้ำในคอร์สนี้ทั้งหมด รวม 64 ประเด็น กว่า 338 Slide เนื้อหาดีและพรีเมี่ยมมากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว  ครูแอมได้สกัดย่อยเพื่อให้เด็ก ๆ อ่านได้ง่าย  สอดแทรกเทคนิคการจำไปในเรื่องต่างๆที่น้อง ๆ สามารถ ฟังปุ๊บเอาไปใช้ได้ปั๊บทำข้อสอบได้ทันที

 
 
เปลี่ยนคำว่ายาก …เป็นเรื่องง่าย
เปลี่ยนจากไม่เข้าใจ…เป็นแจ่มแจ้ง
เปลี่ยนจากทำไม่ได้…เป็นคะแนนเต็ม
ในบทความนี้ ครูแอมขอยกประเด็นเรื่องของ “ผล” มาสรุปให้น้อง ๆ ได้อ่านกัน และบอกเลยว่าประเด็นนี้ครูแอมมีเทคนิคการท่องจำผลกลุ่มที่ออกข้อสอบบ่อยมาก ย้ำอีกครั้ง ! ว่าออกข้อสอบบ่อยมาก   ใครจำปุ๊บเอาไปใช้ทำข้อสอบได้ปั๊บ รับคะแนนไปเลยทันที
 
ผลแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือผลแท้กับผลเทียม  
1.  ผลแท้จะเกิดจาก “รังไข่”
2.  ผลเทียมจะเกิดจาก “ฐานรองดอก” หรือส่วนอื่นที่ไม่ใช่รังไข่
 
เรามาโฟกัสกันที่ “ผลแท้” ก่อนนะคะ
 
ผลแท้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. ผลเดี่ยว   2. ผลกลุ่ม    3. ผลรวม
 
ตามภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ
ผลเดี่ยว  น้อง ๆ จำไว้เลยนะคะ 1 ฐานรองดอกมี 1 รังไข่ 
 
ผลกลุ่ม 1 ฐานรองดอกมีหลายรังไข่
 
ผลรวม  เป็นดอกช่อ ที่มีรังไข่อยู่ใกล้กันเมื่อเจริญเป็นผลจึงเชื่อมต่อรวมเป็นผลเดียวกัน

ผลเดี่ยว
ผลกลุ่ม
ผลรวม
เห็นไหมคะว่า 3 รูปด้านบนมีรูปผัก/ผลไม้เยอะมาก แล้วเราต้องมานั่งจำว่าผลเดี่ยวมีอะไร ผลกลุ่มมีอะไร และผลรวมมีอะไร 

เพราะข้อสอบสาธิตปทุมวัน ออกว่า สตอเบอรี่เจริญเติบโตมาจากอะไร?
ใครจำไม่ได้ ก็ทำข้อสอบไม่ได้นะคะ แต่ถ้าใครไม่รู้ มาค่ะ ครูแอมจะมาสอนเทคนิคให้น้อง ๆ ได้ท่องจำกัน 
ผลกลุ่ม
ผลรวม
ผลเทียม


ผลกลุ่ม “ว้าย!! กลุ่มเราต้องสตอเรื่องนมน้อยหน่อย เดี๋ยวจะดัง”
ผลรวม  “รวมเกย์เบื่อคนขับรถขนขนุนที่บ้ายอ”
ผลเทียม  “ชมพู่และแอป ชอบสะตอ ว่ามีสามีเป็นฝรั่ง”

น้อง ๆ สามารถดูชื่อของผักและผลไม้ในกลุ่มต่าง ๆ ได้ตามรูปด้านบนที่ครูแอมเขียนไว้ในรูปนะคะแล้วอย่าลืมท่อง 3 ประโยคนี้ด้วยนะคะ รับรองว่าเอาไปใช้สอบได้แน่นอน

เป็นยังไงกันบ้างคะกับเทคนิคที่ครูแอมเอามาฝากในเรื่องของผลเรามาดูอีก 63 ประเด็น ว่ามีประเด็นอะไรกันบ้างตามรูปนี้ได้เลย


1 อาณาจักรของสิ่งมีชีวิต

2 การแบ่งประเภทของพืช
3 ส่วนประกอบของพืชและหน้าที่
4 การลำเลียงสารในพืช
5 การคายน้ำของพืช
6 การสังเคราะห์แสงของพืช
7 ใบเลี้ยงคู่และใบเลี้ยงเดี่ยว
8 ดอกไม้
9 การสืบพันธุ์ของพืช
10 ผล
11 การแบ่งประเภทของสัตว์
12 การสืบพันธุ์ของสัตว์
13 การเจริญเติบโตของสัตว์
14 ระบบหมุนเวียนเลือด
15 ระบบการหายใจ
16 ระบบย่อยอาหาร
17 ระบบขับถ่าย
18 เซลล์
19 การตอบสนองของพืช
20 ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต

21 ห่วงโซ่อาหารสายใยอาหาร
22 พันธุศาสตร์
23 โภชนาการ
24 การทดสอบสารอาหาร
25 การจำแนกประเภทของสาร
26 ของแข็งของเหลวแก๊ส
27 การแยกสาร
28 ธาตุเชิงลึก
29 กรดเบส
30 การเปลี่ยนแปลงของสาร
31 วิธีการทางวิทยาศาสตร์
32 แรงเสียดทาน
33 เครื่องผ่อนแรง
34 ปริมาณทางฟิสิกส์
35 อัตราเร็ว/ความเร็ว
36 ความหนาแน่น
37 แรงพยุง
38 แรงดัน
39 ลม
40 ไฟฟ้าสถิต

41 ไฟฟ้ากระแส
42 วงจรไฟฟ้า
43 ตัวกลางของแสง
44 การสะท้อนของแสง
45 การมองเห็นสี
46 การหักเหของแสง
47 กระจกและเลนส์
48 เสียง
49 การถ่ายโอนความร้อน
50 ความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะ
51 การเปลี่ยนหน่วยของอุณหภูมิ
52 งาน
53 ระบบสุริยะ
54 การบอกระยะเชิงมุม
55 การอ่านแผนที่ดาว
56 ดาวเทียม
57 ฤดูกาลของโลก
58 ข้างขึ้นข้างแรม
59 สุริยุปราคา-จันทรุปราคา
69 กุล่มดาว
61 ปรากฏการณ์เรือนกระจก
62 ดิน/หิน
63 น้ำกระด้าง
64 บรรยากาศ

” 64 ประเด็นวิทย์ สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต “

 

หากน้อง ๆ คนไหนอยากได้เทคนิคเพิ่มเติม ในเนื้อหาอีก 63 ประเด็นที่เหลือ สามารถมาพบกับครูแอมได้ใน “คอร์สสรุปเนื้อหาวิทยาศาสตร์ ขั้นเทพ” สามารถดูรายละเอียดและตัวอย่าง ได้ ที่นี่

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

เทคนิคทำข้อสอบคณิต


ครูโอชินจะนำความรู้ที่จะพาน้องๆ เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค สุดเจ๋งที่ได้อ่านหนังสือ “คู่มือครู” ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของระดับประถมศึกษ
า 

วันนี้จะมาแชร์วิธี เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆและผู้ปกครอง สำหรับการเตรียมตัวน้องๆสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวันและโรงเรียนสาธิตประสานมิตร 

8 หลักการที่น้องๆสามารถเลือกใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาตร์ได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น 

1.  การวาดภาพ (Draw a Picture) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

การวาดภาพเป็นการจินตนาการ โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ให้ออกมาเป็นรูปภาพเพื่อสื่อสารให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้นมองเห็นภาพชัดเจน และเห็นแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ส่วนใหญ่นำมาใช้กับเรื่องเศษส่วนเป็นหลัก เช่น เช่นมีเงินอยู่ 100 บาทใช้ไป 3 ใน 5 เราเลยต้องวาด เป็นสี่เหลี่ยมทั้งหมด 5 ช่อง เพื่อแบ่งส่วนที่ใช้ไปและส่วนที่เหลืออยู่
 
ตัวอย่าง
โต้งมีเงินอยู่จำนวนนึง วันเสาร์ใช้ไป 300 บาท  วันอาทิตย์ใช้ไป 2 ส่วน 5 ของเงินที่เหลือ  ทำให้เงินที่เหลือคิดเป็นครึ่งนึงของเงินที่มีอยู่เดิมจงหาว่าโต้งมีเงินอยู่กี่บาท

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค
 

จากรูปเราจะเห็นว่าแบ่งสี่เหลี่ยมออกเป็นทั้งหมด 6 ช่อง
โดย 1 ช่องเท่ากับ 300 บาท
เดิมโต้งจะมีเงิน 6 ช่อง คิดเป็น 1,800 บาท

2. การหาแบบรูป (Find a Pattern) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิคนี้

การหาแบบรูปเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาโดยเราจะต้องหาความสัมพันธ์ความเชื่อมโยงของข้อมูลที่โจทย์ให้มาเพื่อสรุปเป็นรูปแบบหรือ pattern ของโจทย์เพื่อนำชุดความคิดนี้ไปใช้กับสิ่งที่โจทย์ถาม บางทีโจทย์ไม่ได้ให้ ความสัมพันธ์มาตั้งแต่แรก เราก็ต้องจำลองสร้างรูปแบบ เพื่อหาความสัมพันธ์ของโจทย์เอง  เรื่องนี้ใช้ได้บ่อยในเรื่องของจำนวนและพีชคณิต
 
เช่น  ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง เจ้าภาพจัดโต๊ะและเก้าอี้ดังรูปถ้าจัดโต๊ะและเก้าอี้ตามรูปนี้จนครบ 10 ตัว  จะต้องใช้เก้าอี้ทั้งหมดกี่ตัว
 
 
เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค
 
สังเกตว่าโจทย์ข้อนี้เราจะต้อง pattern ของโจทย์ โดยสามารถแบ่ง โต๊ะออกเป็น 2 แบบคือ  1. โต๊ะมุม  (โต๊ะซ้ายและขวาจะมี 3 เก้าอี้)
2. โต๊ะใน ( มีเก้าอี้ 2 ตัว)
 
เวลาเราคำนวณเราก็สามารถแยก 2 ประเภทนี้ได้
โต๊ะมุม 2 ตัว = 6 เก้าอี้ ,  โต๊ะใน  8 ตัว = 16 เก้าอี้
 
รวม 22 เก้าอี้

3. การคิดย้อนกลับ (Work Backward) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

การคิดย้อนกลับเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่ทราบผลลัพธ์แต่ไม่ทราบข้อมูลในขั้นตอนเริ่มต้น ซึ่งเราจะต้องนำตัวเลขที่เป็นผลลัพธ์มาหาคำตอบในค่าเริ่มต้น
 
เช่น   เพชรมีเงินอยู่จำนวนหนึ่งให้น้องชายไป 35 ให้น้องสาวไป 15 ได้รับเงินจากแม่อีก 20 บาท  ทำให้ขณะมีเพชรมีเงิน 112 บาทเดิมเพชรมีเงินกี่บาท
 
 
เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8

ข้อนี้น้องๆสามารถใช้การวาดภาพเข้ามาช่วยในการคิด เพื่อให้เห็นภาพได้มากขึ้นและเป็นการคิดย้อนกลับในการเปลี่ยนเครื่องหมายจากบวกไปเป็นลบ หรือจากลบ กลายเป็นบวก สุดท้ายคำตอบที่ได้เดิมเพชรมีเงิน 142 บาท

4. การเดาและตรวจสอบ (Guess and Check) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

การเดาและการตรวจสอบ เป็นการอาศัย ความน่าจะเป็นไปได้แล้วสุ่มหรือสมมุติ คำตอบขึ้นมา โดยเอาไปแทน ในโจทย์ ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้ถ้า โจทย์คณิตศาสตร์มี Choice ให้เลือก 1 2 3 4 เราอาจจะเอาคำตอบในแต่ละช้อยไปแทนค่าเพื่อดูว่า ควรจะตอบ Choice ไหน

แต่ถ้าข้อสอบไม่มี Choice เป็นอัตนัยเราต้องสมมติตัวเลขขึ้นมาเอง แบบนี้ต้องอาศัยโชคชะตาฟ้าลิขิตแทนค่าปุ๊บแล้วได้ปั๊บ ด้วยนะคะ

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8


ในบางครั้งเราสามารถลักไก่ใช้วิธีนี้ในการคิดโจทย์เลขได้เช่นเดียวกัน แต่บางทีค่อนข้าง ใช้เวลานานหรือแทนหลายตัวเลขไม่ได้คำตอบสักที จึงต้องใช้ วิธีอื่นมาช่วยในการหาคำตอบแทน ข้อนี้เราอาจจะใช้สมการเข้ามาช่วยในการหาคำตอบ
โดยแทน เป็นค่า x และ x + 36
และเขียนเป็นสมการ 2x + 36 เท่ากับ 136
จากนั้นเราจะหาค่า x ได้เท่ากับ 50
###ตัวเลข 2 ตัวเลยเท่ากับ 50 และ 86###

5. การทำให้ปัญหาง่าย (Simplify the problem) 

การทำให้ปัญหาง่ายเป็นการลดจำนวนที่เกี่ยวข้องกับโจทย์ปัญหาหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนรูปแบบความคิด หรือคิดนอกกรอบนั่นเองนะจ๊ะ

 

เรื่องนี้ครูโอชินสอนเป็นเทคนิค”เฟอร์นิเจอร์ห้ครูโอชิน” หมายความว่าเราจะต้องมอง เป็น ห้องสี่เหลี่ยม – ด้วยเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น
เพื่อหาพื้นที่ที่เหลือในรูปนี้(พื้นที่สีเขียว)
 
โจทย์ข้อนี้จะเห็นว่าพื้นที่แรเงารูปสามเหลี่ยม เราไม่สามารถรู้ฐานหรือสูงได้เลย  เพราะโจทย์ไม่ได้กำหนดมา  ทำให้ยากต่อการคิดที่เป็นสูตรหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม 1/2 x ฐาน x สูง

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8

พื้นที่สี่เหลี่ยมใหญ่
– (พื้นที่ A + B + C + D) = พื้นที่ที่แรเงา
 
พื้นที่สี่เหลี่ยมใหญ่ เท่ากับ 160 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ A = 80 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ B = 15 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ C = 18 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ D =  21 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่แรเงา = 160-(80+15+18+21)  = 160-134
พื้นที่แรเงา =  26 ตารางเซนติเมตร##

6. การแจกแจงรายการ ( Make a List) 

การแจกแจงรายการเป็นการเขียน รายการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากโจทย์ปัญหาโดยเราต้องคิดแบบมีระบบ สามารถวาดเป็นตารางช่วยในการแจกแจงและจัดระบบความคิด เพื่อนำไปสู่คำตอบ

เช่น นักเรียนกลุ่มหนึ่งต้องการซื้อไม้บรรทัดอันละ 8 บาทดินสอแท่งละ 4 บาทเป็นเงิน 100 บาท ถ้าต้องการไม้บรรทัดอย่างน้อย 5 อัน และดินสอ อย่างน้อย 4 อันจะซื้อไม้บรรทัดและดินสอได้กี่วิธี

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

ในตารางจะเป็นการแจกแจงรายการเช่น ถ้าเราซื้อไม้บรรทัด 5 อันราคา 40 บาทจะเหลือเงิน 60 บาทเลยสามารถซื้อดินสอได้ 15 แท่ง
 
ในตารางจะเห็นว่า สามารถเป็นไปได้ตามเงื่อนไข ที่ต้องการไม้บรรทัดอย่างน้อย 5 อันและดินสออย่างน้อย 4 อัน ได้ทั้งหมด 6 วิธี

7.  การตัดออก (Eliminate) 

การตัดออกเป็นการ ตัดคำตอบ ที่ไม่สอดคล้องหรือไม่ตรงกับเงื่อนไขในสิ่งที่โจทย์ถาม เช่นจงหาจำนวนที่หารด้วย 5 และ 6 ได้ลงตัว

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8

จากตารางจะเห็นว่าเราสามารถตัดที่หารด้วย 5 ลงตัวก่อนได้
step 1  ตัดเลขที่หารด้วย 5 ไม่ลงตัวออก ( เลขที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย 0 กับ 5)
 
step 2  เอาตัวเลขที่ได้จาก step 1 มาพิจารณาต่อว่าเลขไหนที่หารด้วย 6 ลงตัวบ้าง
 
ตัวเลขที่ได้ก็เป็นคำตอบ

8. การเปลี่ยนมุมมอง (Chang of view) 

การเปลี่ยนมุมมองเป็นการแก้โจทย์ปัญหาที่มีความซับซ้อน เราจึงต้องเปลี่ยนวิธีคิดเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาให้แตกต่างไปจากเดิม ส่วนใหญ่เทคนิคนี้จะเป็นการ ใช้ในเรื่องของเรขาคณิต โดยการ”ตัด ต่อ เติม ” ที่ครูโอชินสอนเทคนิคนี้ ใน intensive 3

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8


จากรูปจะเห็นว่าเราสามารถพลิกครึ่งวงกลมในแถบด้านล่าง เปลี่ยนมาประกบ กลับแถบด้านบนอีกฝั่งหนึ่งทำให้เรา เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นโดยหาเพียงแค่ พื้นที่วงกลมกลาง – พื้นที่วงกลมเล็ก

ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิด

เรียนออนไลน์ยุคโควิด

“ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิด” 

เด็กขยันอ่านคืออะไร?
– เป็นโครงการของน้องชั้นป.6 ปี 2564 ที่เตรียมตัวสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตในปีนี้
– ฝึกความมีวินัยในการอ่านหนังสือทบทวน ในช่วงนี้
– โดยมีการบันทึกการอ่าน เป็นลายมือของตัวเอง
จำนวนชั่วโมงที่อ่าน วิชาที่อ่าน เรื่องที่อ่าน เปรียบเสมือน
ไดอารี่ที่นำพาไปสู่ เด็กสาธิต

 

ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิด

.
ชมรมเด็กขยันอ่าน เข้าแล้วได้อะไร?
-มีก๊วนเพื่อนๆที่คอยอยู่เป็นเพื่อนกัน พูดคุยสอบถามทุกๆวันไปพร้อมกับคุณครูที่จะมา Zoom กันทุกพุธ 18.00 เป็นต้นไป
-เพื่อนๆมีการนัดกลุ่ม ติวแยกกัน เป็นรายคน เหมือนมีเพื่อนนั่งอ่านหนังสือไปพร้อมๆกัน
– มีโอกาสในการเข้าร่วม Diamond Class สุดโหด สุดเข้มข้น โดยที่ครูจะมาติวเข้มพร้อมอัดแน่นเนื้อหาที่ถูกกลั่นกรองมาจากคลังความรู้ ทุกแบบฉบับ ทุกเทคนิค อะไรที่ว่าเจ๋งที่สุด อะไรที่ว่าปัง เอามารวมใส่ไว้ในคลาสเรียนนี้ และฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
(Diamond Class จะเป็นการเชิญน้องๆเข้าร่วมคลาสเท่านั้น ไม่สามารถสมัครลงเรียนได้)


ใครสามารถเข้า ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิดได้บ้าง?
-รับสมัครน้องๆชั้นป.6 ไม่ว่าจะเป็นคอร์ส live สด คอร์สออนไลน์
คอร์สอะไรก็ได้ของสถาบัน bigbrain สามารถเข้าร่วมได้
– ส่งรูปและชื่อมา ทักและส่ง ที่ไลน์ ID :@askbigbrain
จะมีคุณครู เอารูปน้องๆมาโพสต์และสามารถมาคอมเม้นทำบันทึกการอ่านของตัวเองได้เลย
.

.
ตอนนี้มีผู้เข้าร่วม ” ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิด ” ทั้งหมด 16 คนด้วยกันมาดูกันดีกว่าว่าจะมีน้องอะไรบ้าง ส่วนเด็กๆน้องๆคนไหน อยากมาดูโน๊ตของเพื่อนๆสามารถดูได้ที่ลิ้งนี้ ที่นี่ 

วันนี้มีตัวอย่างของๆน้องมาให้ได้ดูกันด้วย ทั้ง ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ น้องคนแรก

ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิด

“น้องเอมมี่” สาวน้อยตัวเล็ก เล็กพริกขี้หนูของจริง
รอยยิ้มนั้นว่าสดใส ไฉไลแล้ว เรื่องความรู้ก็ไม่เป็นสองรองใคร
ลายมือ ความสวยงาม ความเป็นระเบียบไม่ต้องพูดถึง
เรียกได้ว่า ครบจริงๆสำหรับสาวน้อยเอมมี่ เยี่ยมมากๆค่ะ

โดยทุกวันพุธ เวลา 18.00 เราจะมาพูดคุย ตั้งเป้าหมาย ไปกับครูแอม และครูโอชิน สัปดาห์นี้อ่านได้กี่ชั่วโมง สัปดาห์หน้าจะอ่านกี่ชั่วโมง ?
พูดคุยแชร์ สิ่งดีดี ที่เป็นการเรียนรู้ เช่น

1. App “Goodnote” ใครที่มี IPAD แล้วไม่มีแอพนี้ไม่ได้แล้ว เหมาะกับการจดโน๊ต ขีดๆเขียนๆเป็นที่สุด สามารถเพิ่มรูปหรือจดด้วยลายมือตัวเองแถมยังแชร์ไปให้เพื่อนๆเป็นรูปภาพหรือว่า pdf ก็ได้ด้วย apple pen เพียง 1 แท่ง
 
2. App “Cam Scanner” ใครที่อยู่ในช่วงของการเรียนรู้หรือมีการส่งเนื้อหาชีสหนังสือเรียนให้กับเพื่อน App นี้เรียกได้ว่า เทพมากๆ ใช้ส่งงานก็ได้  ใช้ลอกการบ้านก็ดี เห็นตัวอักษรชัดแจ๋วเปลี่ยนจากดำๆมืดๆเป็นขาวจั๊วะ แฮปปี้ที่สุดไม่มีไม่ได้แล้ว  ถ้าสังเกตจากบันทึกการอ่านของน้องๆด้านบนส่วนใหญ่ก็จะใช้ App นี้ในการถ่ายรูปแทบจะทั้งนั้น

3. App “JigSpace” แอพนี้ใครที่ชอบดูภาพสามมิติหรืออยากจะเห็นสิ่งของชิ้นนั้นๆมีองค์ประกอบข้างในเป็นยังไงบ้าง เรียนรู้ได้ครบจบใน App เดียว ลองไปโหลดมาใช้ดูได้

รวมถึงพูดคุยถึงปัญหา และถามความเห็นน้องๆ
อ่านแล้วง่วง ทำไงได้บ้างคะ  อ่านยังไงให้เร็ว
อ่านยังไงให้มีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่า น้องๆแต่ละคนก็มีเทคนิค ที่ไม่เหมือนกัน แค่หาสไตล์ที่ใช่ ที่ตัวเองอ่านแล้วเร็ว อ่านแล้วเข้าใจ 
น้องๆก็ได้เห็นมุมมอง ของเพื่อนๆ และเอามาปรับใช้กับตัวเอง 

 

เรียนออนไลน์ในยุคโควิด
.
มี LINE ส่วนตัวที่คุณครูมาตอบโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านผู้ปกครอง
อยากถามอะไรถามมาได้เลยสงสัยตรงไหนได้จะนอกบทเรียนหรือในบทเรียนคุณครูก็ยินดีต่อแต่ห้ามเอาการบ้านมาให้ทำนะจ๊ะไม่ได้เด็ดขาดต้องลองทำเองก่อน 555
 
 
เหมือนมีคุณครูเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว 
คือ ครบ คือดี คืองาม มากที่สุด
.
ชมรมเด็กขยันอ่านหนังสือ เรียนออนไลน์ในยุคโควิด
ชมรมเด็กขยันอ่าน เรียนออนไลน์ในยุคโควิด

“น้องตาต้า” หนุ่มน้อยสุดหล่อ ที่ขยันและตั้งใจเรียนเป็นที่สุด เก่งมากๆเลย อนาคตเด็กสาธิตแน่นอน ตาต้าเป็นเด็กที่ตั้งใจอ่านและสรุปออกมาได้อย่างดี รวมถึงมีการเตรียมตัว พรีเซ้นส์หน้าห้องได้แบบน่าทึ่ง ถามคำถามสร้างการมีส่วนร่วม หรือสไลด์การสอนที่รู้ว่าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เยี่ยมมากๆ หนุ่มน้อยคนนี้

ชมรมเด็กขยันอ่าน ในยุคโควิด

“น้องอิงอิง” สาวน้อยที่เรียนกับบิ๊กเบรนมาตั้งแต่ชั้นป.4 แล้วมาเจอกันอีกทีตอนชั้นป.6 น้องอิงอิง มีความขยันตั้งใจเป็นที่สุด น้องมีแรงบันดาลใจและมีความพยายามในการเรียนหนังสือมาก  ทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติม  ทำการบ้านส่งตลอด คุณครูทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ติดสาธิตแน่นอน

ชมรมรักการอ่านจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีน้องๆที่มีความขยันและตั้งใจพร้อมที่จะก้าวสู่สนามสอบเข้าม 1 โรงเรียนสาธิตไปพร้อมๆกัน สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเองและคุณพ่อคุณแม่
 
แล้วพบกันทุกๆวันพุธ จนถึงวันสอบนะคะ

ด้วยรัก 
จากครูและทีมงานสถาบันบิ๊กเบรน

สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

สอบเข้าสาธิตปทุมวันสอบเข้าสาธิต-สอบกี่คน-รั

สาธิตปทุมวัน โรงเรียนในฝันของใครหลายๆคน ซึ่งสนาม สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน เป็นหนึ่งในสนามสอบที่สุดหินระดับประเทศเลยก็ว่าได้ ด้วยข้อสอบที่สุดหิน และอัตราการแข่งขันที่สูงลิ่วในทุกๆปี น้องๆจะต้องผ่านการต่อสู้กับเพื่อนในรุ่นที่มีเป้าหมายเดียวกันจากทั่วประเทศ โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ปัจจุบันเปิดสอนอยู่ 2 หลักสูตรด้วยกันคือ หลักสูตรปกติ และ หลักสูตร EP ซึ่งแต่ละภาคก็จะใช้วิชาสอบที่ต่างกัน จำนวนที่รับของทั้ง 2 ภาคก็จะต่างดัวยเช่นกัน โรงเรียนสาธิตปทุมวันตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนอังรีดูนังต์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อัตราการแข่งขัน – สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

หลักสูตรปกติ

จำนวนผู้สมัครสอบ เฉลี่ยปีละประมาณ 2,000-4,000 คน
จำนวนรับทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
– กลุ่มนักเรียนทั่วไป 120 คน (คะแนนสอบ100%)
– กลุ่มนักเรียนโควต้าจากสาธิตประสานมิตร
– กลุ่มผู้มีอุปการะคุณ  (เด็กเส้นนั่นเอง เด็กบางคนเก่งมาก แต่ก็เส้นเข้ามาเพื่อความชัวร์)
อัตราส่วนการรับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1:25 (กลุ่มนักเรียนทั่วไป)

หลักสูตร EP หรือ EPTS – The English Program for Talented Students

จำนวนผู้สมัครสอบ เฉลี่ยปีละประมาณ 400 คน
จำนวนรับทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
– กลุ่มนักเรียนทั่วไป 35 คน (คะแนนสอบ100%)
– กลุ่มนักเรียนโควต้าจากสาธิตประสานมิตร
– กลุ่มผู้มีอุปการะคุณ  (เด็กเส้นนั่นเอง เด็กบางคนเก่งมาก แต่ก็เส้นเข้ามาเพื่อความชัวร์)
อัตราส่วนการรับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1:11 (กลุ่มนักเรียนทั่วไป)

นำตัวอย่างหนังสือระเบียบการ สอบเข้าม.1โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ปีการศึกษา 2563
มาให้ดูเป็นตัวอย่าง (เนื่องจากปี 2564 ที่น้องๆสอบ เป็นการสมัครแบบออนไลน์ จึงไม่มีระเบียบการเป็นเล่มให้ดู)


วิชาที่ใช้สอบ

หลักสูตรปกติ

ข้อสอบมีทั้งหมด 4 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
ทุกวิชามีคะแนนเท่ากันคือ 50 คะแนน มาดูรายละเอียดคร่าวๆดังนี้
– วิชาคณิตศาสตร์ 25 ข้อ
– วิชาวิทยาศาสตร์ 50 ข้อ
– วิชาภาษาไทย 50 ข้อ
– วิชาสังคมศึกษา 50 ข้อ

หลักสูตร EP หรือ EPTS – The English Program for Talented Students

ข้อสอบมีทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ
มาดูรายละเอียดคร่าวๆดังนี้
– คณิตศาสตร์ 25 ข้อ
– วิทยาศาสตร์ 50 ข้อ
– ภาษาไทย 50 ข้อ
– สังคมศึกษา 50 ข้อ
– ภาษาอังกฤษ 100 ข้อ listening 20 ข้อ คะแนนเป็น 2 เท่าของวิชาอื่นๆ
จะเห็นได้ว่าสำหรับภาค EPTS จะมีเน้นวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก ค่าน้ำหนักวิชาภาษาอังกฤษคะแนนถือเป็น 2 เท่าของวิชาอื่นๆกันเลย ดังนั้นน้องๆคนไหนมีแผนที่จะสอบเข้า EPTS ควรให้ความสำคัญในการเตรียมตัวสอบ อ่านหนังสือให้ครบทั้ง 5 วิชา อย่าได้ทิ้งวิชาใดเป็นอันขาด ทุกคะแนนในแต่ละวิชามีค่ามากๆค่ะ


วัน – เวลาสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

สำหรับน้องๆที่สมัครสอบเข้าเรียนโครงการ EPTS ในเวลา 13.20 – 15.20 น. นักเรียนจะต้อง มาสอบวัดความพร้อมวิชาภาษาอังกฤษด้วย เพื่อนำคะแนนไปพิจารณาร่วมกับผลการสอบในช่วงเช้า


คุณสมบัติและพื้นความรู้ของผู้สมัครสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

  1. น้องๆจะต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษาและจะสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษาปีนี้เท่านั้น
  2. น้องๆจะต้องเป็นผู้ไม่มีโรคที่ขัดต่อการศึกษาเล่าเรียน
  3. น้องๆจะต้องเป็นผู้มีความประพฤติดี มีผู้ปกครองรับรองเป็นหลักฐาน
    หมายเหตุ น้องๆที่เรียนโรงเรียนนานาชาติที่เรียน 3 ภาคเรียน ไม่สามารถสมัครได้

การรับสมัครสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

  • น้องๆที่จะสมัครสอบสามารถซื้อเอกสารรายละเอียดการสอบวัดความพร้อมฯ ได้ในราคาฉบับละ 100 บาท พร้อมทั้งรับใบสมัครได้ที่โรงเรียนสาธิตทุมวัน
  • ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานต่างๆ โดยน้องๆที่จะสมัครสอบต้องไปสมัครด้วยตนเอง ณ โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ตามวันและเวลาที่กำหนด
  • สิ่งต่อไปนี้มาเป็นหลักฐานในการสมัคร
    1. สำเนาสมุดรายงานประจำตัวนักเรียน (ครบทุกหน้า) หรือใบรับรองที่โรงเรียนออกให้
    (ตัวจริงหรือสำเนา) หรือใบสำเนา ปพ. 1: ป เพื่อแสดงว่ากำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
    2. สำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อแสดงชื่อ นามสกุล และวัน เดือน ปี เกิดที่ถูกต้อง
    3. รูปถ่ายขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว จำนวน 6 รูป (แต่งเครื่องแบบนักเรียน ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือนรูปถ่ายต้องเหมือนกันทั้ง 2 รูป และอย่าลืมเขียนชื่อหลังรูปนะคะ)
    4. น้องๆที่จะสมัครเรียนโครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS)
    ต้องนำสำเนาแฟ้มสะสมงาน (portfolio) หรือเอกสารสรุปผลงานและความสามารถพิเศษด้านวิชาการและด้านกิจกรรมต่าง ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ น้องๆจะต้องนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งใบสมัศร สำเนาต่าง ๆ ต้องให้คุณพ่อหรือคุณแม่ลงชื่อรับรองความถูกต้องใบรับรองจากโรงเรียนเดิมต้องระบุวัน เตือน ปีที่ ออกอย่างชัดเจน และมีกำหนดเวลานับจากวันที่ ออกไม่เกิน 90 วัน เจ้าหน้าที่จะรับสมัครเฉพาะผู้ที่มีเอกสารครบถ้วนและถูกต้องเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเรียนโครงการ EPTS ก่อนตัดสินใจสมัคร ขอให้ศึกษารายละเอียดของโครงการก่อน เพราะเมื่อได้รับการพิจารณาให้เข้าเรียนในโครงการ EPTS แล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนมาเรียนในหลักสูตรปกติได้

ค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

หลักสูตรภาคปกติ ค่าเช่าสถานที่สอบ ค่าดำเนินการและค่าบริการสอบวัดความพร้อมฯ รวมค่าอุปกรณ์ การสอบ เฉลี่ยคนละ 800 บาท
หลักสูตรโครงการนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) ค่าเช่าสถานที่ ค่าดำเนินการ และค่าบริการสอบวัดความพร้อมฯ รวมค่าอุปกรณ์การสอบ เฉลี่ยคนละ 1,000 บาทค่ะ


การสอบสัมภาษณ์

น้องๆที่สอบผ่านข้อเขียนแล้ว จะต้องเข้าสอบสัมภาษณ์ ด้านความรู้และมารยาทไทย และบิดา/หรือมารดาของนักเรียน ในการไปสัมภาษณ์น้องๆควรเตรียมความพร้อมด้านความรู้และมารยาทไทย (ตามเอกสารหน้า 51 – 55 ) แนะนำตามระเบียบการควรเตรียมผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ) หรือ คะแนน O-Net นั่นเอง ไปมอบให้ผู้สัมภาษณ์เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย


ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

สาธิตปทุมวัน หรือ สาธิตประสานมิตร

สาธิตปทุมวัน หรือ สาธิตประสานมิตร เข้ายากกว่ากัน ?

จริงๆแล้วก็พอทราบกันอยู่แล้วว่าสาธิตปทุมวันเป็นโรงเรียนที่สอบเข้ายากที่สุดกันเลยทีเดียว สาธิตปทุมวัน หรือ สาธิตประสานมิตร อันไหนเข้ายากกว่ากันจะต้องขึ้นอยู่กับปีนั้นๆ ว่าคนสมัครสอบกี่คนเลยค่ะ ซึ่งอันนี้จะต้องอัพเดตเป็นรายปี แต่ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่โรงเรียนละประมาณ 2,000-3,000 คนแต่มีบางปีที่ปทุมวันตรงกับประสานมิตร ทำให้เด็กเกลี่ยไปโรงเรียนใดโรงเรียนนึง อัตราการสมัครก็จะลดลงตามไปด้วย อาจจะประมาณ 1,200-2,000 คน ประมาณนี้ (แต่ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาสอบกันคนละวันกันเลย) ซึ่งหากจะสอบเข้าสาธิต ไม่ว่าจะเป็นสาธิตปทุมวัน หรือสาธิตประสานมิตรสามารถไปดูได้ว่าจริงๆแล้วทั้ง 2 โรงเรียนนี้เขาสอบกี่กันคน รับจริงกี่คนได้ที่นี่

สาธิตปทุมวัน หรือ สาธิตประสานมิตร

แต่ความยากของการสอบเข้าสาธิตปทุมวันนั้นมี 3 สาเหตุใหญ่ๆด้วยกัน
1. ความยากของข้อสอบ : ข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวันนั้นยากมากจนที่กล่าวขานรู้กันในวงการ…
2. จำนวนผู้เข้าสอบ 3,000-4,000 คนรับ 120 คนถือว่าสัดส่วนการแข่งขันสูงที่สุดในโรงเรียนที่มีการสอบเข้า ม.1 ทั้งหมด…
3. วันสอบสาธิตปทุมวันซึ่งไม่เหมือนโรงเรียนรัฐบาลอื่นๆ เช่น สวนกุหลาบ สตรีวิทย์ บดินทร์ สามเสน ฯลฯ โรงเรียนพวกนี้จะสอบวันเดียวกันพร้อมกันทั้งหมด เด็กเก่งๆก็จะกระจายกันไปแต่ละพื้นที่หรือตามแต่ละเพศ เช่น เด็กผู้ชายเก่งๆมักจะมาวัดกันที่สวนกุหลาบ ก็ตัดคู่แข่งไปหนึ่งเพศใหญ่คือผู้หญิงไปแล้ว ไม่เหมือนสาธิตปทุมวันที่สอบแยกต่างหาก ไม่ซ้ำโรงเรียนอื่น ทำให้มีโอกาสที่เด็กเก่งๆเทพๆจะมาแข่งกันเยอะมาก


10 คำถามยอดฮิต สาธิตปทุมวัน VS สาธิตประสานมิตร

ระหว่างสาธิตประสานมิตร สาธิตปทุมวัน

1. โรงเรียนสาธิตปทุมวันกับสาธิตประสานมิตร เหมือนหรือแตกต่างกันอะไรบ้าง
จุดเหมือนคือเป็นโรงเรียนในสังกัด มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเหมือนกันแต่นอกนั้นแตกต่างกันพอสมควร เพราะมีการบริหารจัดการแยกกัน ในแง่ของการสอบเข้า ทำให้สอบคนละวันกัน วิชาที่สอบก็แตกต่างกัน

2. โรงเรียนสาธิตปทุมวันกับสาธิตประสานมิตรแล้วโรงเรียนไหนดีกว่ากันคะ
จริงๆแล้ว ไม่มีโรงเรียนไหนดีที่สุด แต่ทุกโรงเรียนต่างมีจุดดีจุดเด่นแตกต่างกัน นอกจากนั้นก็ยังขึ้นกับตัวเด็กเองด้วย สำหรับสองโรงเรียนนี้ ถือเป็นโรงเรียนสาธิตระดับสุดยอดทั้งคู่ ถ้าน้องสอบเข้าโรงเรียนใดได้ ก็ถือว่าน้องเก่งมากๆแล้ว แต่ถ้าให้เทียบจริงๆ ในแง่วิชาการ…โรงเรียนสาธิตปทุมวันจะค่อนข้างโดดเด่นกว่าโรงเรียนสาธิตประสานมิตรพอสมควร แต่ถ้าในแง่กิจกรรมบันเทิง ต้องยกให้สาธิตประสานมิตรเลย เพราะเด็กจบจากที่นี่ไปเป็นดารานักร้องเยอะมาก แต่ไม่ใช่ว่าสาธิตประสานมิตรวิชาการไม่ดีนะ ดีมากเหมือนกันเมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ : )

3. ระหว่างสาธิตปทุมวัน กับ สาธิตประสานมิตรที่ไหนสอบยากกว่ากันคะ
โรงเรียนสาธิตปทุมวันยากกว่านิดหน่อย สัดส่วนการแข่งขันสูงกว่า ปกติแต่ละปีนักเรียนสมัครสอบ 2,000-4,000 คน (บางปีพีคๆสูงถึง 4,300 คน) จากจำนวนรับ 120 คน สัดส่วนการแข่งขันอยู่ที่ 1:35 โดยประมาณ ขณะที่สาธิตประสานมิตรเฉลี่ยแต่ละปีมีผู้เข้าสอบ 2,000-3,000 คน จากจำนวนรับ 100 คน สัดส่วนโดยประมาณก็อยู่ที่ 1:25

4. โรงเรียนสาธิตประสานมิตรนี่ต้องสอบวิชาอะไรบ้างอะคะ แล้วควรเน้นวิชาอะไรเป็นพิเศษคะ
โรงเรียนสาธิตประสานมิตร จะมีการสอบทั้งหมด 6 วิชา คือวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และความถนัดทางการเรียน สำหรับการเน้นวิชาใดวิชาหนึ่งเป็นพิเศษคงไม่ได้ ต้องกระจายเฉลี่ยความสำคัญให้ครบทั้ง 6 วิชา หลายๆคนอาจเน้นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เพราะเป็นวิชายาก ก็ฟังดูสมเหตุสมผลดี แต่ถ้าอยากเน้นจริงๆควรเน้นวิชาความถนัดฯไปด้วย เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าใน 6 วิชาที่สอบ ค่าสัดส่วนค่าน้ำหนักสูงเหมือนกันทุกวิชา อีกทั้งวิชานี้ยังไม่มีสอนในหลักสูตรที่โรงเรียน ทำให้เด็กมักไม่รู้หลักในการทำข้อสอบวิชานี้ ทำให้สถาบันกวดวิชาบิ๊กเบรนของเราจะเน้นติววิชานี้เป็นพิเศษ

5. ถ้าอยากให้น้องไปลองสอบเข้าสาธิตปทุมวันด้วย สอบเหมือนกับที่สาธิตประสานมิตรหรือเปล่าคะ
โรงเรียนสาธิตปทุมวันและสาธิตประสานมิตรจะสอบต่างกัน โดยสาธิตปทุมวันภาคปกติจะสอบ 4 วิชาได้แก่คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทยและสังคมศึกษา ทุกวิชามีค่าน้ำหนักเท่ากัน จำนวนข้อสอบก็ไม่เท่ากัน อีกทั้งในภาพใหญ่ข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวันนั้น มีความซับซ้อนและเกินหลักสูตรไปมาก ทำให้ดูแล้วยากกว่าข้อสอบเข้าสาธิตประสานมิตรประมาณหนึ่ง

6. เชียร์ให้เข้าสาธิตไหนดีคะ ระหว่างสาธิตประสานมิตรกับสาธิตปทุมวัน
จริงๆแล้วอย่างที่บอกว่าทั้งสองโรงเรียนเป็นโรงเรียนระดับสุดยอดทั้งคู่ และความจริงก็คือ “ไม่มีโรงเรียนไหนที่ดีที่สุด มีแต่โรงเรียนที่เหมาะกับน้องมากที่สุด” น้องคนไหนที่สามารถสอบเข้าสาธิตปทุมวันหรือโรงเรียนสาธิตประสานมิตรได้ จะมีโอกาสมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน และ “สาธิตปทุมวัน” ถือเป็นโรงเรียนที่สอบเข้าม.1 ยากที่สุดแล้ว ถ้าเตรียมสอบโดยมุ่งเน้นที่สาธิตปทุมวัน จะได้เนื้อหาที่เข้มข้นพอสำหรับการสอบเข้าทุกโรงเรียนในประเทศไทยแน่นอน

7. ทำไมสาธิตปทุมวันสอบเข้ายากที่สุด
ความยากของการสอบเข้าสาธิตปทุมวันนั้นมี 3 สาเหตุใหญ่ๆด้วยกัน ได้แก่…1. ความยากของข้อสอบ : ข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวันนั้นยากมากจนที่กล่าวขานรู้กันในวงการ…2. จำนวนผู้เข้าสอบ 3,000-4,000 คนรับ 120 คนถือว่าสัดส่วนการแข่งขันสูงที่สุดในโรงเรียนที่มีการสอบเข้าม.1 ทั้งหมด…3. วันสอบสาธิตปทุมวันซึ่งไม่เหมือนโรงเรียนรัฐบาลอื่นๆ เช่น สวนกุหลาบ สตรีวิทย์ บดินทร์ สามเสน ฯลฯ โรงเรียนพวกนี้จะสอบวันเดียวกันพร้อมกันทั้งหมด เด็กเก่งๆก็จะกระจายกันไปแต่ละพื้นที่หรือตามแต่ละเพศ เช่น เด็กผู้ชายเก่งๆมักจะมาวัดกันที่สวนกุหลาบ ก็ตัดคู่แข่งไปหนึ่งเพศใหญ่คือผู้หญิงไปแล้ว ไม่เหมือนสาธิตปทุมวันที่สอบแยกต่างหาก ไม่ซ้ำโรงเรียนอื่น ทำให้มีโอกาสที่เด็กเก่งๆเทพๆจะมาแข่งกันเยอะมาก
……… แต่อย่างไรก็ตามจะเชียร์ให้ตั้งเป้าหมายโรงเรียนที่สอบยากๆไว้ก่อน (แม้ดูๆแล้วจะเกินศักยภาพของน้อง) ดังหลักการที่ว่า “เวลาตีกอล์ฟให้เล็งไปที่ดวงจันทร์ แม้จะไม่ถึงดวงจันทร์แต่ก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว” กล่าวคือแม้ตั้งเป้าหมายไปที่สาธิตปทุมวันแล้ว ต่อให้น้องพยายามสุดแล้วศักยภาพไม่ถึง สอบไม่ได้ ก็ยังมีโอกาสที่จะสอบติดโรงเรียนที่รองๆลงมา ซึ่งก็ยังถือเป็นโรงเรียนที่ดีเยี่ยมอยู่ ดีกว่าตั้งเป้าหมายโรงเรียนระดับรองๆถ้าพลาดไปก็จะได้โรงเรียนที่แย่ลงไปอีก ……

8. ทั้งสองสาธิตมีภาคภาษาอังกฤษด้วยใช่ไหมคะ รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างคะ ค่าเทอมประมาณเท่าไหร่
ทั้งสาธิตปทุมวันและสาธิตประสานมิตร มีภาคภาษาอังกฤษทั้ง 2 โรงเรียน ซึ่งค่าเทอมทั้งสองที่จะพอๆกันคือตกปีละสามแสนบาท (ไม่รวมค่าไปSummer) ส่วนที่แตกต่างกันสิ้นเชิงคือตัวหลักสูตร สาธิตปทุมวันจะเป็นหลักสูตรอีพี (English Program) – EPTS แต่ถ้าสาธิตประสานมิตร จะเป็นหลักสูตรอินเตอร์ (International Program) – SPIP

9. แต่ละสาธิตรวมถึงโรงเรียนรัฐบาลอื่นๆสอบกันช่วงไหนบ้างคะ
สาธิตประสานมิตรจะสอบในช่วงกลาง-ปลายเดือนกุมภพันธ์ แล้วจะตามด้วยสอบ Gifted ของรร.รัฐบาลต่างๆประมาณต้นเดือนมี.ค. แล้วกลางเดือนมี.ค.โดยประมาณจะมีการสอบภาคปกติโรงเรียนรัฐบาลครับ (ซึ่งทั้ง 4 สนามสอบ จะสอบคนละวันกัน)

10. ช่วยแนะนำวิธีการเตรียมตัวสอบให้หน่อยค่ะ
ขออนุญาตแนะนำแบบรวมใช้ได้ทุกโรงเรียนเลย คือน้องจะเริ่มเตรียมตัวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก่อนจบป.5 น้องควรเรียนเนื้อหาระดับประถมฯจบทั้งหมดแบบครบถ้วน แล้วพอขึ้นป.6 เป็นช่วงเวลาที่น้องควรจะต้องเรียนเนื้อหาเกินหลักสูตร (เนื้อหาม.ต้น) รวมทั้งหมั่นฝึกฝนโจทย์แนวแข่งขัน อาทิ ข้อสอบสมาคม, สพฐ, ราชภัฏฯ, เพชรยอดมงกุฏ และสสวท. เพราะแนวข้อสอบเข้าม.1 โรงเรียนดัง ก็มักจะหนีไม่พ้นโจทย์แข่งขันพวกนี้ สุดท้ายนี้ การสอบเข้าสาธิตฯนั้นแม้จะยากแต่ก็คุ้มค่า แม้จะยากแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปถ้ามีความพยายามในการเตรียมตัวมากพอ และการเตรียมตัวนั้นต้องถูกต้องถูกทางตรงแนวด้วย ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด

และสุดท้าย สำหรับการสอบเข้าสาธิตนั้น จำเป็นต้องเรียนพิเศษหรือไม่

คำตอบคือ ถ้าน้องสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ก็ไม่จำเป็น แต่ข้อสอบเข้าสาธิตทั้งสาธิตปทุมวันและสาธิตประสานมิตร รวมถึงพวกหลักสูตร Gifted รร.รัฐบาลทั้งหลาย ซึ่งเกินครึ่งจะออกเกินหลักสูตรประถม ต่อให้น้องเป็นระดับหัวกะทิจากโรงเรียนไหนอะไรมายังไง ก็ไม่มีทางมีความรู้เกินหลักสูตรอย่างแน่นอน ดังนั้นการเรียนพิเศษจึงสำคัญตรงนี้ เพราะข้อสอบที่ออกเกินหลักสูตรนั่นเอง ทำให้การเรียนที่โรงเรียนจึงไม่เพียงพอ น้องที่ไม่ได้เรียนพิเศษเนื้อหาล่วงหน้าเกินหลักสูตรมา แทบจะหมดโอกาสในการสอบเข้าเลยก็ว่าได้ (นอกจากสามารถศึกษาด้วยตนเอง ซื้อหนังสือม.ต้นมาอ่านเองแล้วเข้าใจ) นอกจากนี้ การเรียนพิเศษ จะทำให้น้องๆรู้แนวข้อสอบ รู้จุดสำคัญที่ออกข้อสอบบ่อยๆ รู้เทคนิควิธีลัดในการทำข้อสอบให้เร็วและถูกต้องมากขึ้น ซึ่งพวกนี้น้องๆจะไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียน ด้วยระบบการศึกษาไทยที่บีบบังคับ ทำให้ผมเชื่อว่าถ้ามีการแข่งขัน คนที่มีอะไรพิเศษกว่า เหนือกว่า ย่อมได้เปรียบแน่นอน ดังนั้นการเรียนพิเศษกับการสอบเข้าอะไรชั้นไหนก็ตามแต่ กลายเป็นของคู่กันไปซะแล้ว


ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน

แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน

ข้อสอบสอบเข้าสาธิตปทุมวันภาคปกติ จะใช้สอบ 4 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
ทุกวิชามีคะแนนเท่ากันคือ 50 คะแนน
– วิชาคณิตศาสตร์ 25 ข้อ
– วิชาวิทยาศาสตร์ 50 ข้อ
– วิชาภาษาไทย 50 ข้อ
– วิชาสังคมศึกษา 50 ข้อ
หากเป็นภาค EP จะต้องสอบเพิ่มอีก 1 วิชา คือวิชาภาษาอังกฤษซึ่งคะแนนในวิชาภาษาอังกฤษสำหรับน้องที่สอบ EP ปทุมวันจะเป็น 2 เท่า ของวิชาอื่นๆกันเลยทีเดียวเรามาดู แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน

แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน – วิชาวิทยาศาสตร์

1. ของเหลว A มีความจุความร้อนจำเพาะเท่ากับ 1.2 cal/gํC
อยากทราบว่าความร้อน 24 กิโลแคลอรี สามารถทำให้ของเหลว A
จำนวนกี่กรัม มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 50 องศาเซลซียส

1.   20 กรัม                  2.   240 กรัม               
3.   400 กรัม                4.   840 กรัม

เฉลยข้อสอบ

3. 400 กรัม

2.  วงจรไฟฟ้ามีหลอดไฟ A B C และ D ที่เหมือนกันทุกประการ ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ ดังรูป

ข้อสอบสอบเข้าสาธิตปทุมวันภาคปกติ

ถ้าไส้หลอดไฟ C ขาด หลอดไฟแต่ละหลอดจะเป็นอย่างไร

แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน
เฉลยข้อสอบ

3. สว่าง      ไม่สว่าง      ไม่สว่าง

3. เมื่อนำสายไฟมาพันกับแท่งโลหะแล้วต่อกับเซลล์ไฟฟ้า ข้อใดเกิดแรงระหว่างแท่งโลหะต่างจากข้ออื่น

แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน ภาคปกติ
เฉลยข้อสอบ

4. 

4. นักเรียนทําการทดลอง ตั้งไว้ที่ระเบียงห้องตั้งแต่ 9.00 น. – 15.00 น. ดังรูป

เมื่อนําใบของพืชจากชุดการทดลอง A และ B ไปทดสอบแป้งด้วยสารละลายไอโอดีน ใบของ พืชจะมีสีใดตามลําดับ

เฉลยข้อสอบ

2. สีน้ำตาล    สีน้ำเงินอมม่วง

5. พิจารณาการกระทำต่อไปนี้
1. แบกเด็กไว้ข้างหลัง แล้วยืนเขย่ง ขึ้น-ลง เพื่อเขย่าเด็กเบา ๆ
2. อุ้มเด็กอยู่ในอ้อมแขนแล้วแกว่ง ซ้าย-ขวา ในแนวราบ
3. แบกเด็กไว้ข้างหลัง แล้วเดินจงกลมร้องเพลงกล่อม
ตัวเลือกใดไม่ทำให้เกิดงาน

1. ข้อ 1 และ 3           2. ข้อ 1 และ 2        3. ข้อ 2 และ 3           4. ถูกทุกข้อ

เฉลยข้อสอบ

3. ข้อ 2 และ 3


– วิชาคณิตศาสตร์ –

1. ค่าของ

แนวข้อสอบ สาธิตปทุมวัน

เท่ากับข้อใด
1. 1,281                      2. 1,282                      3. 2,563                      4. 2,564

เฉลยข้อสอบ

1,282

2. ให้  A  มีค่าเท่ากับปริมาตรของแท่งไม้รูปลูกบาศก์ ซึ่งมีพื้นที่ผิวทั้งหมด 96 ตารางเซนติเมตร 
B  มีค่าเท่ากับคำตอบของโจทย์ปัญหานี้  “ วงล้อรัศมียาว 1 หน่วย กลิ้งไปได้ 14 รอบ
วงล้อวงหนึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว  หน่วยจะกลิ้งได้กี่รอบจึงจะได้ระยะทางเท่ากับวงแรก” ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

1. A+B= 120              2. A-B=8                  3. A+B= 92                4. 2AB=7,168

เฉลยข้อสอบ

A + B = 120

3. สินค้าอย่างหนึ่งเคยขายได้กำไร  40%  ต่อมาราคาต้นทุนของการผลิตลดลง  15%  จึงลดราคาขายลง  10%  ทำเช่นนี้  ผู้ขายจะได้กำไรหรือขาดทุนกี่เปอร์เซนต์

เฉลยข้อสอบ

4. สวนสนุกแห่งหนึ่งคิดค่าบัตรเข้าเล่นเครื่องเล่นสําหรับผู้ใหญ่ 75 บาท สําหรับเด็ก 60 บาท แต่ถ้าซื้อเหมาคิดค่าบัตรใน ราคา 150 บาท (สําหรับผู้ใหญ่ 1 คน เด็ก 2 คน) ถ้าสวน สนุกขายบัตรได้ทั้งสิ้น 4,320 บาท โดยขายบัตรเหมาได้ 15 ใบ และขายบัตรเดี่ยวได้ 30 ใบ วันนี้มีคนเข้าสวนสนุก ที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กต่างกันกี่คน
1. 9 คน                       2. 10 คน                    3. 11 คน                     4. 12  คน

เฉลยข้อสอบ

9 คน

5. มีส้มในตะกร้า ก มากกว่าส้มในตะกร้า ข  20 ผล ถ้านำส้มออกจากตะกร้า ข ไปใส่ในตะกร้า  ก  10  ผล  จะทำให้ส้มในตะกร้า ก เป็น 3 เท่าของจำนวนส้มในตะกร้า ข จงหาว่าในตะกร้าทั้งสองมีรวมกันกี่ผล
1. 50  ผล                     2. 80  ผล                     3. 120  ผล                   4. 150  ผล

เฉลยข้อสอบ

80 ผล


– วิชาภาษาไทย –

1. คำอ่านในข้อใดอ่านออกเสียงถูกต้อง
1. เครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยวิกฤต (วิ-กิด)
   2. แผนการยุติ (ยุ-ติ) ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 5G
3. กรมสรรพากร (สัน-พา-กอน) ยกเลิกการจ่ายภาษีในปี 2564        
   4. มาตรการ (มาด-ตะ-กาน) ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19

เฉลยข้อสอบ

3. สรรพากร (สัน-พา-กอน)

2. ข้อใดไม่มีคำบุพบท
1. ต้นแบบนวัตกรรมแห่งอนาคต
   2. ไอเดียปลูกผักสำหรับคนเมือง
   3. ฉันติวเข้มที่ big brain ระหว่างปิดภาค
4. ครูทุ่มเททำงานหนักเพราะลูกศิษย์ตั้งใจใฝ่เรียนรู้

เฉลยข้อสอบ

4. ครูทุ่มเททำงานหนักเพราะลูกศิษย์ตั้งใจใฝ่เรียนรู้

3. ข้อใดใช้คำราชาศัพท์ได้ถูกต้อง
1. หมายกำหนดการพิธีพระราชทานปริญญาตรงกับวันที่ 15 สิงหาคม
2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราโชบายให้ดำเนินโครงการจิตอาสา
3. รัชกาลที่ 9 ทรงมอบหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
4. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงเป็นอาจารย์วิชาทหารม้า

เฉลยข้อสอบ

4. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงเป็นอาจารย์วิชาทหารม้า

4. ข้อใดเป็นประโยค
1. วิถีชีวิตใหม่ในสถานการณ์ปัจจุบัน
2. จุดชมวิวพระอาทิตย์และทะเลหมอก
3. การให้อาหารปลาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
4. พายเรือชมร่องสวนท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

เฉลยข้อสอบ

4. พายเรือชมร่องสวนท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

5. สำนวนในข้อใดที่ผู้รับสารเป็นอุปสรรคในการสื่อสาร
1. กำแพงมีหู ประตูมีตา
2. ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด
3. ขุดด้วยปาก ถากด้วยตา
4. ปากคนยาวกว่าปากกา

เฉลยข้อสอบ

2. ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด


– วิชาสังคมศึกษา –

1. องค์กรความร่วมมือในข้อใดที่ประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิก
1. WHO                      2. AFTA                       3. EATA                     4. APEC

เฉลยข้อสอบ

3. EATA

2. ข้อใดกล่าวถึงภูมิศาสตร์ประเทศไทยได้ถูกต้อง
1. ประเทศไทยมีลักษณะภูมิอากาศร้อนชื้นแบบสะวันนา
2. ด้านตะวันออกสุดของประเทศไทยคืออำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
3. จุดที่แคบที่สุดของไทยอยู่ที่จังหวัดระนอง
4. คอคอดกระคือส่วนที่แคบที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีน

เฉลยข้อสอบ

1. ประเทศไทยมีลักษณะภูมิอากาศร้อนชื้นแบบสะวันนา

3. รัฐโบราณรัฐใดที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทยมากที่สุด
1. อาณาจักรทวารวดี                                                 2. อาณาจักรกัมพูชา
3. อาณาจักรหริภุญชัย                                               4. อาณาจักรตามพรลิงค์

เฉลยข้อสอบ

4. อาณาจักรตามพรลิงค์

4. ผืนป่าผืนใดของประเทศไทยแห่งแรกที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกยกเว้นข้อใด
1. ห้วยขาแข้ง                                                              2. เขาใหญ่
3. ตะรุเตา                                                                    4. ดงพญาเย็น

เฉลยข้อสอบ

1. ห้วยขาแข้ง

5. ข้อใดไม่จัดเป็นพิธีกรรมที่เกิดจากวิถีชาวบ้าน
1.พิธีงานศพ                                                    2. พิธีมงคลสมรส     
3. พิธีทอดกฐิน                                                4. พิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่

เฉลยข้อสอบ

3. พิธีทอดกฐิน


ข้อสอบเข้าม.1 สาธิต

สามารถจัดการกับเวลาที่มีอย่างจำกัดได้

” สิ่งที่น้องพรีมได้เรียนกับวิดีโอคือสามารถจัดการกับเวลาที่มีจำกัดได้ค่ะ ว่างเมื่อไหร่ก็ดู เหนื่อยตอนไหนก็หยุดก่อนแล้วต่อวันหลัง สมองก็รับได้เต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วยค่ะ “

น้องพรีม

ทำให้หนูคะแนนดีขึ้น และเข้าใจมากขึ้นค่ะ

” ความประทับใจคืออาจารย์สอนได้ดีและสอนได้สนุกมากๆค่า ละเอียด ทำให้ดูเข้าใจได้มากขึ้นค่ะ ประโยชน์ที่เรียนคือทำให้หนูคะแนนดีขึ้น และทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ “

น้องกระเป๋า

สามารถจัดการกับเวลาที่มีอย่างจำกัดได้

” เรียนออนไลน์ที่ BigBrain สนุกมากๆครับคุณครู สอนเข้าใจง่าย เรียนตอนไหนก็ได้ครับ ดูซ้ำกี่รอบก็ได้ ทำให้ผมใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อยด้วยครับ อยากชวนเพื่อนมาเรียนด้วยกันเยอะๆนะครับ “

น้องภีม

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

ค่า T-Score ตอนสอบคืออะไร ?

ค่า T-Score ตอนสอบคืออะไร ?

การสอบเข้าม.1 ทั้งสาธิตปทุมวันและสาธิตประสานมิตร จะต้องรู้ก่อนว่า ค่า T-Score ตอนสอบคืออะไร ? เพราะว่าการคิดคะแนนจะแตกต่างจากการสอบเข้าม.1 โรงเรียนรัฐบาลอื่นๆ เพราะจะใช้คะแนนทางสถิติที่เรียกว่า T-Score ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ผ่านการทดสอบ โดย T-Score จะมีข้อดีในการปรับคะแนนทุกวิชาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน (เพราะแต่ละวิชา ความยาก-ง่ายไม่เท่ากัน)

ซึ่งการสอบน้องๆสามารถใช้คะแนนทางสถิติที่เรียกว่า T-Score เพื่อประเมินตนเองได้ก่อน เป็นการต่อสู้กับตัวเอง ไม่ต้องแข่งกับคนอื่นด้วยลำดับที่เลย

คะแนนมาตรฐานที่ (T-Score) หมายถึง คะแนนที่มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 50 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 10 และมีการแจกแจงคะแนนเป็นรูปโค้งปกติ ซึ่งเป็นคะแนนมาตรฐานที่แปลงมาจากคะแนนมาตรฐานซีเพื่อแก้จุดอ่อนบางประการของคะแนนมาตรฐานชี คะแนนมาตรฐานที่ (T-Score)คำนวณได้จากสูตรต่อไปนี้

ค่า T score ตอนสอบคืออะไร

ตัวอย่าง

นักเรียนคะแนนสอบ(X)คะแนนมาตรฐานซี(Z)คะแนนมาตรฐานที(T)
1.กมล400.00 50+(10×0.00)=50
2.โสภา420.5050+(10×0.50)=55
3.นิรมล441.0050+(10×1.00)=60
4.ประชา482.0050+(10×2.00)=70
5.นิเวศ37-0.7550+(10×(-0.75))=42.5
6.ประจักษ์33-1.7550+(10×(-1.75))=32.5

การประเมินคะแนนมาตรฐานที(T-Score) อาจกำหนดระดับคุณภาพเป็น 5 ระดับดังนี้
ตั้งแต่ T 65 และสูงกว่า          แปลว่า      ดีมาก
ตั้งแต่ T 55 – 65                 แปลว่า      ดี
ตั้งแต่ T 45 – 55                 แปลว่า      พอใช้
เฉพาะ T 50                        แปลว่า      มีความสามารถปานกลางพอดี
ตั้งแต่ T 35 -45                  แปลว่า      ยังไม่พอใช้
ตั้งแต่ T 35 และต่ำกว่า        แปลว่า      อ่อน
จะสังเกตเห็นว่าการแบ่งระดับข้างต้นมีคะแนน T บางตัวซ้ำกันที่ตรงหัวและตรงท้ายของช่วงคะแนนเช่นที่ T 55 เป็นต้น การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตรง T 55 นั้นเป็นจุดแบ่งเขตระหว่างกลุ่ม ฉะนั้น ถ้านักเรียนคนใดได้คะแนน T ตรงจุดแบ่งเขตนั้นพอดี คือ ที่ T 35 , 45, 55 และ 65 ให้เลื่อนนักเรียนที่คาบเส้นผู้นั้นขึ้นไปอยู่ในกลุ่มสูงที่ถัดไปเสมอ เพื่อผลทางจิตวิทยาเพราะโอกาสที่นักเรียนคนเดียวกันจะได้คะแนนตรงนั้นช้ำ ๆ กันมีอยู่น้อยมาก

ค่า T-Score ตอนสอบคืออะไร ? – คุณลักษณะที่สำคัญ

 คุณลักษณะที่สำคัญของคะแนนมาตรฐานที่ (T – Score) คือ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 50 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 10 มีการแจกแจงเป็นโค้งปกติ ใช้เปรียบเทียบคะแนนจากข้อมูลต่างชุดกันได้ บวก ลบ คูณหารกันได้อย่างถูกหลักวิชา เพราะการแปลงคะแนนดิบของแต่ละวิชาให้เป็นคะแนนมาตรฐานที (T – Score)นั้นจะทำให้คะแนนต่าง ๆ เป็นมาตราเดียวกัน นอกจากนี้คะแนนมาตรฐานที (T – Score)ยังสามารถนำมาหาค่าเฉลี่ยได้อย่างมีความหมาย เช่น ด.ช.ประชา สอบวิชาณิตศาสตร์ได้ T 50 สอบวิชาวิทยาศาสตร์ได้ T 55สอบวิชาภาษาไทยได้ T 40 และสอบวิชาสังคมศึกษาได้ T 33 ดังนั้นคะแนนเฉลี่ยของ T – Score ทั้ง 4 วิชาเท่ากับ

หรือเท่ากับ T 45 ซึ่งอาจประเมินได้ว่า เขามีความสามารถในการเรียนระดับปานกลางหรือพอใช้แต่ค่อนข้างต่ำ จะเห็นได้ว่าคะแนนมาตรฐานที (T – Score) สามารถแปลความหมายได้ในตัวมันเอง เช่น ผู้ที่สอบได้คะแนนมาตรฐานที (T – Score) ใกล้ ๆ กับ 50 แสดงว่ามีความสามารถปานกลางแต่ถ้าได้คะแนนมาตรฐานที่ (T – Score) ต่ำกว่า 50 แสดงว่ามีความสามารถค่อนข้างต่ำลงไป เป็นต้น ถ้าอยากให้ทราบแน่ชัดลงไปอีกว่านักเรียนคนนั้นเด่นด้อยขนาดใดให้ไปอ่านบัญชีในตารางการแปลง T – Score เป็นจำนวนร้อยละที่อยู่เหนือกว่าผู้อื่นหรือแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ไทล์ (PR) นั่นเอง เช่น ด.ช.ประชา ได้ T 45 ซึ่งตรงกับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 30.85 หรือ 31% หมายความว่าในนักเรียน 100 คนจะมีนักเรียนคนอื่น ๆ ที่มีคะแนนน้อยกว่า ด.ช.ประชา อยู่ 31 คน พร้อม ๆ กับมีอีก 69 คนที่มีคะแนนมากกว่าหรือเก่งกว่าเขา


ตารางค่าคะแนน T-Score

คะแนน T% ที่เหนือผู้อื่นคะแนน T% ที่เหนือผู้อื่น คะแนน T % ที่เหนือผู้อื่น
100.0032379.686491.92
110.00483811.516593.32
120.0073913.576694.52
130.0114015.876795.54
140.0164118.416896.41
150.0234221.196997.13
160.0344324.207097.72
170.0484427.437198.21
180.0694530.857298.61
190.0974634.467398.93
200.134738.217499.18
210.194842.077599.38
220.264946.027699.53
230.355050.007799.65
240.475153.987899.74
250.625257.937999.81
260.825361.798099.865
271.075465.548199.903
281.395569.158299.931
291.795672.578399.9582
302.285775.808499.966
312.875878.818599.977
323.595981.598699.984
334.466084.138799.989
345.486186.438899.9928
356.686288.498999.9952
368.086390.329099.9968

ดังนั้น การนำคะแนนมาบวกกันตรงๆ แล้วทำการ Ranking อันดับมันจึงดูไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ T-Score จึงถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในจุดนี้ ซึ่งเมื่อคิดคะแนนเป็น T-Score แล้ว ก็สามารถเทียบในแต่ละวิชาได้ทันทีว่าวิชาไหนทำคะแนนได้ดีกว่าวิชาไหน ซึ่งการคำนวณ T-Score นั้นจะขึ้นอยู่กับสองปัจจัยคือ ค่าเฉลี่ยของกลุ่มและการกระจายของคะแนน(ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากร) มองในมุมค่าเฉลี่ย คือ ถ้าทำคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยมากๆ คะแนน T-Score ก็จะยิ่งสูงนั่นเอง

และคำถามสำคัญที่สุดคือ ต้องทำ T-Score ได้ถึงเท่าไหร่ ถึงจะสอบได้.. แนะนำถ้าน้องๆทำคะแนน T-Score ได้เกิน 70% โอกาสสอบติดจะถือว่า 100% เลยก็ว่าได้

คะแนนมาตรฐานที่ (T-Score) หมายถึง คะแนนที่มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 50 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 10 และมีการแจกแจงคะแนนเป็นรูปโค้งปกติ
——————–
พูดง่ายคือ % ที่เราอยู่เหนือคู่แข่งของเรานั่นเอง
.
ถ้าใครได้ T-Score = 70 “ดีเยี่ยมที่สุด”
แปลว่า “เราได้คะแนนเยอะกว่าคนอื่น 98% “
มีคนสอบ 100 คน เราได้คะแนนมากกว่าคนอื่น 98 คน
มีคนสอบ 1,000 คน เราได้คะแนนมากกว่าคนอื่น 980 คน
.
ถ้าใครได้ T-Score = 50
แปลว่า “ได้ลำดับที่กลางๆของจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด”
.
ถ้าใครได้ T-Score = 40 “ต้องลุ้นสุดตัว”
แปลว่า “เราได้คะแนนเยอะกว่าคนอื่น 16%”
มีคนสอบ 100 คน เราได้คะแนนมากกว่าคนอื่น 16 คน
มีคนสอบ 1,000 คน เราได้คะแนนมากกว่าคนอื่น 160 คน
——————–

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

สอบเข้าสาธิต สอบกี่คน รับจริงกี่คน

สอบเข้าสาธิต สอบกี่คน รับจริงกี่คน?

กว่าที่คนคนหนึ่งจะได้เข้าสู่รั้วโรงเรียนสาธิตประสานมิตร หรือรั้วโรงเรียนสาธิตปทุมวันได้ รู้หรือไม่ สอบเข้าสาธิต สอบกี่คน รับจริงกี่คน? น้องๆจะต้องผ่านการต่อสู้กับเพื่อนในรุ่นที่มีเป้าหมายเดียวกันจากทั่วประเทศ และน้องๆทุกคนก็ต่างมีวิธีการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมลงสนามแตกต่างกัน บางคนมองว่าลำพังแค่นั่งเรียนธรรมดาตามชั่วโมงที่โรงเรียนกำหนดคงไม่เพียงพอ ต้องหาออปชั่นเสริมด้วยการฟิตอ่านหนังสือและลงเรียนพิเศษเพิ่ม คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านคงทราบกันอยู่แล้วว่าข้อสอบที่จะสอบเข้านั่นยากมากเพียงใด แต่อัตราการแข่งขันสอบเข้านั้นก็สูงมากๆเช่นเดียวกันนอกจากจะเจอกับโจทย์หรือข้อสอบที่สุดหินแล้ว ต้องมาเจอคู่แข่งที่หินมากๆไม่แพ้กัน จะหินอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วรึเปล่า ไปดูอัตราการแข่งขันทั้ง 2 โรงเรียนนี้กัน

สอบเข้าสาธิต สอบกี่คน รับจริงกี่คน?

สาธิตประสานมิตร – สอบกี่คน รับจริงกี่คน?

สาธิตประสานมิตร มีชื่อเต็มว่าโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) “Laboratory and Demonstration” ในฐานที่เป็นห้องทดลองคนวิจัยทางการศึกษาและเป็นแปลงสาธิตการศึกษาขั้นพื้นฐานของมหาวิทยาลัย จึงเป็นต้นแบบและต้นทางแห่งการบุกเบิกกระบวนการเรียนรู้ เป็นต้นแบบของการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างแท้จริง และยังดำรงความเป็นโรงเรียนสาธิต ที่มีพันธกิจต้องเป็นต้นแบบการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพ ปัจจุบันโรงเรียนสาธิตประสานมิตรเปิดสอนอยู่ 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรปกติ และหลักสูตรหลักสูตรนานาชาติ(SPIP)

หลักสูตรปกติ

  • จำนวนผู้สมัครสอบ เฉลี่ยปีละประมาณ 2,000 คน
  • จำนวนรับทั้งหมด
    – นักเรียนทั่วไป 100 คน
    – นักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว ไม่เกิน 3 คน
    – โครงการความร่วมมือทางด้านกีฬาฟุตบอล ไม่เกิน 20 คน
    – นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ  ดนตรี 15 คน, นาฏศิลป์ไทย 8 คน, ลีลาศ 2 คน, กีฬาต่างๆ 15 คน
    – นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ไม่เกิน 17 คน เช่น บกพร่องกทางการเรียนรู้ สติปัญญา ออทิสซึม สมาธิสั้น
  • อัตราส่วนการรับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1:20
  • ข้อสอบมีทั้งหมด 6 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความถนัดทางการเรียน และทักษะกระบวนการคิดวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
    – คณิตศาสตร์ 25 ข้อ
    – วิทยาศาสตร์ 60 ข้อ
    – ภาษาอังกฤษ 60 ข้อ
    – ภาษาไทย 30 ข้อ
    – ความถนัดทางการเรียน 50 ข้อ
    – ทักษะกระบวนการคิดวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ 60 ข้อ

หลักสูตรนานาชาติ หรือ SPIP – Satit Prasarnmit International Program 

  • จำนวนผู้สมัครสอบ เฉลี่ยปีละประมาณ 200-300 คน
  • จำนวนรับทั้งหมด
    – Year 7 รับ 30-40 คน
    – Year 8 รับ รับ 30-40 คน
    จำนวนรับต่อปีไม่เท่ากัน ขึ้นกับจำนวนห้องที่เปิด และจำนวนนักเรียนเดิมที่เลื่อนชั้นขึ้นมา
  • อัตราส่วนการรับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1:10
  • ข้อสอบมีทั้งหมด 3 วิชาได้แก่ Sciences Mathematics and English

ความยากของการสอบเข้าโรงเรียนสาธิตประสานมิตร หากปีไหน โรงเรียนสาธิตประสานมิตร สอบพร้อมกับโรงเรียนสาธิตปทุมวัน ก็จะไม่ยากมาก  เพราะเฉลี่ยๆเด็กเก่งๆ เน้นไปทางโรงเรียนสาธิตปทุมวันซะส่วนใหญ่ หากปีไหน สอบไม่พร้อมกัน ก็จะยากมากถึงมากที่สุดเพราะน้องๆทุกคนจะสามารถสอบได้ทั้ง 2 สนามเลย


สอบเข้าสาธิตปทุมวันสอบเข้าสาธิต-สอบกี่คน-รั

สอบเข้าสาธิต สอบกี่คน รับจริงกี่คน ? – สาธิตปทุมวัน

สาธิตปทุมวัน มีชื่อเต็มว่า โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เป็น โรงเรียนสาธิตแห่งแรกของประเทศไทยและยังเป็นโรงเรียนสหศึกษาแห่งแรกของ ประเทศไทยอีกด้วยและถือว่าเป็นโรงเรียนสาธิตอันดับหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบันกว่าหกสิบปี ที่โรงเรียน สาธิตปทุมวัน ยังดำรงความเป็นโรงเรียนสาธิต ที่มีพันธกิจต้องเป็นต้นแบบทางการศึกษาเป็นแหล่งทดลองการศึกษาต่างๆ ที่จะต้องผลิตครูชั้นยอดสู่สังคมไทย สาธิตปทุมวัน จึงต้องพัฒนาปรับปรุงตนเองให้มีความล้ำ ในทุกด้าน ทุกมิติของการศึกษาปัจจุบันโรงเรียนสาธิตปทุมวัน ปัจจุบันเปิดสอนอยู่ 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรปกติ และหลักสูตร EP (EPTS)

หลักสูตรปกติ

  • จำนวนผู้สมัครสอบ เฉลี่ยปีละประมาณ 2,000-4,000 คน
  • จำนวนรับทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
    – กลุ่มนักเรียนทั่วไป 120 คน (คะแนนสอบ100%)
    – กลุ่มนักเรียนโควต้าจากสาธิตประสานมิตร
    – กลุ่มผู้มีอุปการะคุณ  (เด็กเส้นนั่นเอง เด็กบางคนเก่งมาก แต่ก็เส้นเข้ามาเพื่อความชัวร์)
  • อัตราส่วนการรับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1:25 (กลุ่มนักเรียนทั่วไป)
  • ข้อสอบมีทั้งหมด 4 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
    ทุกวิชามีคะแนนเท่ากันคือ 50 คะแนน มาดูรายละเอียดคร่าวๆดังนี้
    – วิชาคณิตศาสตร์ 25 ข้อ
    – วิชาวิทยาศาสตร์ 50 ข้อ
    – วิชาภาษาไทย 50 ข้อ
    – วิชาสังคมศึกษา 50 ข้อ

หลักสูตร EP หรือ EPTS – The English Program for Talented Students

  • จำนวนผู้สมัครสอบ เฉลี่ยปีละประมาณ 400 คน
  • จำนวนรับทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
    – กลุ่มนักเรียนทั่วไป 35 คน (คะแนนสอบ100%)
    – กลุ่มนักเรียนโควต้าจากสาธิตประสานมิตร
    – กลุ่มผู้มีอุปการะคุณ  (เด็กเส้นนั่นเอง เด็กบางคนเก่งมาก แต่ก็เส้นเข้ามาเพื่อความชัวร์)
  • อัตราส่วนการรับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1:11 (กลุ่มนักเรียนทั่วไป)
  • ข้อสอบมีทั้งหมด 5 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ
    มาดูรายละเอียดคร่าวๆดังนี้
    – คณิตศาสตร์ 25 ข้อ
    – วิทยาศาสตร์ 50 ข้อ
    – ภาษาไทย 50 ข้อ
    – สังคมศึกษา 50 ข้อ
    – วิชาภาษาอังกฤษ 100 ข้อ listening 20 ข้อ คะแนนเป็น 2 เท่าของวิชาอื่นๆ
    จะเห็นได้ว่าสำหรับภาค EPTS จะมีเน้นวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก ค่าน้ำหนักวิชาภาษาอังกฤษคะแนนถือเป็น 2 เท่าของวิชาอื่นๆกันเลย ดังนั้นน้องๆคนไหนมีแผนที่จะสอบเข้า EPTS ควรให้ความสำคัญในการเตรียมตัวสอบ อ่านหนังสือให้ครบทั้ง 5 วิชา อย่าได้ทิ้งวิชาใดเป็นอันขาด

ความยากของการสอบเข้าโรงเรียนสาธิตปทุมวันนั้นมี 3 สาเหตุใหญ่ๆด้วยกัน
1. ความยากของข้อสอบ : ข้อสอบเข้าสาธิตปทุมวันนั้นยากมากจนที่กล่าวขานรู้กันในวงการ…
2. จำนวนผู้เข้าสอบ 3,000-4,000 คนรับ 120 คนถือว่าสัดส่วนการแข่งขันสูงที่สุดในโรงเรียนที่มีการสอบเข้าม.1ทั้งหมด…
3. วันสอบสาธิตปทุมวันซึ่งไม่เหมือนโรงเรียนรัฐบาลอื่นๆ เช่น สวนกุหลาบ สตรีวิทย์ บดินทร์ สามเสน ฯลฯ โรงเรียนพวกนี้จะสอบวันเดียวกันพร้อมกันทั้งหมด เด็กเก่งๆก็จะกระจายกันไปแต่ละพื้นที่หรือตามแต่ละเพศ เช่น เด็กผู้ชายเก่งๆมักจะมาวัดกันที่สวนกุหลาบ ก็ตัดคู่แข่งไปหนึ่งเพศใหญ่คือผู้หญิงไปแล้ว ไม่เหมือนสาธิตปทุมวันที่สอบแยกต่างหาก ไม่ซ้ำโรงเรียนอื่น ทำให้มีโอกาสที่เด็กเก่งๆเทพๆจะมาแข่งกันเยอะมาก

แต่จำนวนผู้สมัครไม่ว่ามากหรือน้อยเพียงใด อัตราการแข่งขันที่สูงหรือต่ำมากๆ จริงแท้แล้วเป็นตัวแปรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแทบจะไม่มีผลเลยสำหรับน้องๆที่เตรียมตัวมาพร้อมลงสนามเป็นอย่างดี และนี่คือสถิติและสัดส่วนจำนวนคนสมัครสอบเข้าม.1 ของโรงเรียนสาธิตประสานมิตรและโรงเรียนสาธิตปทุมวัน โรงเรียนดังระดับประเทศที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุดของสนามสอบเข้าม.1 แต่ไม่ว่าจะมีคนสมัครสอบสักกี่คน ก็สามารถเพิ่มโอกาสสอบติดให้ตัวเองได้ ถ้าเตรียมตัวให้พร้อม!!

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

ค่าเทอมโรงเรียนสาธิต

ค่าเทอมม.1 โรงเรียนสาธิต

ค่าเทอมโรงเรียนสาธิต ปทุมวัน VS ประสานมิตร ??

มีน้องๆ และผู้ปกครองหลายท่านสอบถามเข้ามาเยอะมากๆ สำหรับการวางแผนการสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต ซึ่ง ค่าเทอมโรงเรียนสาธิต ของทั้งสองสาธิตปทุมวันและประสานมิตรก็มีค่าเทอมที่แตกต่างกันในแต่ละหลักสูตรอยู่แล้ว ก่อนที่จะไปดูค่าเทอมของทั้ง 2 โรงเรียนนี้ เราไปดูกันค่ะว่าทั้ง 2 สาธิตนี้จะมีกี่หลักสูตร และค่าเทอมแต่ละหลักสูตรนี่เท่าไรกัน?? วันนี้แอดมินรวบรวมมาให้แล้วค่าาาา

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรฝ่ายมัธยม แบ่งออกเป็น 2 หลักสูตรคือหลักสูตรปกติและหลักสูตรอินเตอร์อ่านรายละเอียดทั้ง 2 หลักสูตรได้ ที่นี่
 
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวันแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตรคือหลักสูตรปกติและหลักสูตร EP ดูรายละเอียดได้ ที่นี่

 


สรุปง่ายๆ ของทั้ง 2 สาธิต  ภาคปกติ 50,000 บาทต่อปี

ภาค EPTS และ ภาคอินเตอร์ 400,000 บาทต่อปี

สอบเข้าสาธิตปทุมวันสอบเข้าสาธิต-สอบกี่คน-รั

ค่าเทอมโรงเรียนสาธิต “ปทุมวัน”

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน หลักสูตรปกติ  น้องๆจะได้เอกสาร ” การเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายในการมอบตัวนักเรียนชั้นม.1(ตามรูปด้านล่าง) ในวันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ 2564 (ปีล่าสุด) เอกสารที่น้องจะต้องเตรียมมีทั้งหมด 5 รายการ
1. บัตรเลขที่นั่งสอบ
2. สำเนาหลักฐาน แสดง การจบหลักสูตรชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใบระเบียบแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษา (ปพ. 1) ปีการศึกษา 2563
3. สำเนาสูติบัตรและสำเนาทะเบียนบ้านของนักเรียน
4. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดามารดา
5. ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่างๆที่ต้องชำระ

ค่าเทอม โรงเรียนสาธิต
1.  ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าธรรมเนียมทั่วไป 18,000 บาท
2.  ค่าพัฒนาคุณภาพการศึกษาและกิจกรรมของนักเรียน ปีละ 15,000 บาท
3.  ค่าบำรุงสมาคมผู้ปกครองและครูสาธิตปทุมวัน 19,100 บาท
4.  ค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิกตลอดชีพของสมาคมศิษย์เก่าสาธิตปทุมวัน 20,000 บาท
รวม 46,900 บาท
 
และนอกจากนั้นยังมีเพิ่มเติม  ค่าหนังสือ,ค่าสมุดค่า,กระเป๋า,ค่าเสื้อพละ, ค่าชุดนักเรียนอีก 5,415 บาท

รวมทั้งสิ้น 52,315 บาท

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน หลักสูตร EPTS  น้องๆจะได้เอกสาร ” การเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายในการมอบตัวนักเรียนชั้นม.1(ตามรูปด้านล่าง) ในวันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ 2564 (ปีล่าสุด) เอกสารที่น้องจะต้องเตรียมมีทั้งหมด 5 รายการ
1. บัตรเลขที่นั่งสอบ
2. สำเนาหลักฐาน แสดง การจบหลักสูตรชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใบระเบียบแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษา (ปพ. 1) ปีการศึกษา 2563
3. สำเนาสูติบัตรและสำเนาทะเบียนบ้านของนักเรียน
4. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดามารดา
5. ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่างๆที่ต้องชำระ

ค่าเทอม ม.1 สาธิต

1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าธรรมเนียมทั่วไป 75,800 บาท
2 ค่าสมทบกองทุนพัฒนาโรงเรียน 140,000 บาท
3. ค่าบำรุงสมาคมผู้ปกครองและครูสาธิตปทุมวัน 14,100 บาท
4. ค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิกตลอดชีพของสมาคมศิษย์เก่าสาธิตปทุมวัน 2,000 บาท
**รายการที่ 5.1.6 ค่าบำรุงโครงการ จะเป็น 100,000 บาท/ปี  (1 ปีมี 2 ภาคเรียน)**

รวมทั้งสิ้น 281,900 บาท

นอกจากนี้ยังมีค่าเรียน SUMMER สำหรับน้องๆที่กำลังจะขึ้นชั้นม.2  โดยไปเรียนที่ประเทศแคนาดาเป็นระยะเวลา 1 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 บาท
(แต่ปีล่าสุด งดเดินทางเนื่องจากโควิด)

หากเข้าสู่สภาวะปกติ ก็ตีไปประมาณ 400,000 บาท ต่อปี

สอบเข้าสาธิต สอบกี่คน รับจริงกี่คน?

ค่าเทอมโรงเรียนสาธิต “ประสานมิตร”

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร หลักสูตร ปกติ  รายละเอียดค่าธรรมเนียมของโรงเรียนจะคล้ายกับของสาธิตปทุมวัน
.
ประมาณ 46,900 บาท

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร หลักสูตร SPIP  รายละเอียดค่าธรรมเนียม (ตามรูปด้านล่าง)
1. Enrollment Fee 100,000 บาท 
2. Activity support Fee 5,000 บาท 
3. Book Deposit 10,000 บาท 
4. PTA Membership 100 บาท
5. PTA Annual Fee 500 บาท
6. Annual Tuition Fee 355,000 บาท

รวม 471,600 บาท

**Bridging course 65,000 บาท (สำหรับน้องๆที่ไม่ได้มาจากภาค Inter จะต้องเรียน Bridging course เพื่อปรับพื้นฐาน

ค่าเทอม SPIP


สรุปง่ายๆ ของทั้ง 2 สาธิต  ภาคปกติ 50,000 บาทต่อปี

ภาค EPTS และ ภาคอินเตอร์ 400,000 บาทต่อปี

ข้อสอบเข้าม.1 สาธิต

สามารถจัดการกับเวลาที่มีอย่างจำกัดได้

” สิ่งที่น้องพรีมได้เรียนกับวิดีโอคือสามารถจัดการกับเวลาที่มีจำกัดได้ค่ะ ว่างเมื่อไหร่ก็ดู เหนื่อยตอนไหนก็หยุดก่อนแล้วต่อวันหลัง สมองก็รับได้เต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วยค่ะ “

น้องพรีม

ทำให้หนูคะแนนดีขึ้น และเข้าใจมากขึ้นค่ะ

” ความประทับใจคืออาจารย์สอนได้ดีและสอนได้สนุกมากๆค่า ละเอียด ทำให้ดูเข้าใจได้มากขึ้นค่ะ ประโยชน์ที่เรียนคือทำให้หนูคะแนนดีขึ้น และทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ “

น้องกระเป๋า

สามารถจัดการกับเวลาที่มีอย่างจำกัดได้

” เรียนออนไลน์ที่ BigBrain สนุกมากๆครับคุณครู สอนเข้าใจง่าย เรียนตอนไหนก็ได้ครับ ดูซ้ำกี่รอบก็ได้ ทำให้ผมใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อยด้วยครับ อยากชวนเพื่อนมาเรียนด้วยกันเยอะๆนะครับ “

น้องภีม

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เตรียมตัวยังไงให้สอบติด

เตรียมตัวยังไงให้สอบติด โรงเรียนสาธิต

1. เลือกคอร์สเรียนที่มุ่งเน้น เจาะจง และครอบคลุมเนื้อหาสำหรับสอบสาธิตโดยตรง เรียนเนื้อหาที่เข้มข้นและลึกซึ้งและครอบคลุมเนื้อหาระดับชั้นตั้งแต่ป.4-6 และเรียนเนื้อหาเนื้อเกินหลักสูตรบ้าง และน้องๆควรเลือกเรียนเพื่อนำไปใช้สอบได้จริง ทำคะแนนสอบได้พุ่งกระฉูด แต่ข้อสอบสาธิตปทุมวันก็ไม่ได้เกินหลักสูตรทุกข้อ มีทั้งเกินหลักสูตร และอยู่ในหลักสูตร (แต่ก็ซับซ้อนมากๆ)
คำถามที่ผู้ปกครองมักถามเสมอว่า เกินหลักสูตรไปถึงชั้นไหน? ม.3 เลยรึเปล่า?… บอกได้เลยว่าไม่ใช่ สำหรับข้อสอบสาธิตปทุมวัน การออกเกินหลักสูตรโดยส่วนใหญ่นั้น แม้จะออกลึกเกินเนื้อหาป.6 แต่ยังอยู่ในหัวข้อ ป.6 อยู่ (พูดง่ายๆกว่าหัวข้อยังอยู่ในป.4-ป.6 แต่ความลึกของเนื้อหาไประดับม.ต้น) ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นนักเรียน ป.6 ต้องเรียนเรื่องสามเหลี่ยม ซึ่งโดยพื้นฐาน เด็กๆมักรู้เพียงแค่สูตรหาพื้นที่สามเหลี่ยม คือ 1/2xสูงxฐาน แต่จริงๆเนื้อหาอาจออกลึกไปถึงเรื่องสามเหลี่ยมมุมฉากปีทาโกรัส หรือไปถึงเรื่องสามเหลี่ยมคล้าย ซึ่งจะสอนปกติตอนม.ต้นนั่นเอง (เลือกคอร์สเรียนที่เน้นเข้าสาธิตโดยเฉพาะ)

2. เรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ มีเทคนิคและสไตล์การสอนเฉพาะตัว ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน การเรียนกับคุณครูที่สอนเข้สาธิตโดยเฉพาะก็เป็นอีก 1 วิธีที่น้องจะได้รับเนื้อหาที่สามารถนำไปใช้สอบได้จริง และด้วยคุณครูที่มีสไตล์ในการสอนที่น่าจดจำ น้องๆจะไม่เบื่อกับการเรียนพิเศษเลย บวกกับการมีเทคนิคการสอนใหม่ๆมาสอนน้องเสมอ บางเรื่องที่จำยากก็กลายเป็นเรื่องหมูๆในพริบตา เพิ่มคะแนนสอบของน้องได้ง่ายขึ้นแย่างน่าเหลือเชื่อ

3. จัดสรรเวลาเรียนที่มีอย่างจำกัด ให้คุ้มค่าทุกวินาที ไม่ว่าน้องๆจะเรียนพิเศษที่เป็นคลาสสดหรือคลาสออนไลน์ ก็ต้องจัดสรรเวลาที่มีอยู่ให้ดี เพราะเวลาที่เรานั่งเล่นเกมอยู่ หรือดูการ์ตูนอยู่ ก็อาจจะมีเพื่อนๆอีกไม่น้อยที่นั่งทำโจทย์หรืออ่านหนังสือทบทวนบทเรียน น้องบางคนชอบมาเรียนสด เพราะได้เจอเพื่อน มีคำถามตรงไหนก็สามารถสอบถามคุณครูได้ทันที แต่น้องคนไหนที่ไม่สะดวกเรื่องการเดินทางการเรียนออนไลน์จะช่วยให้น้องๆมีเวลาเรียนรู้ได้กว้างขึ้น เรียนที่ไหนก็ได้ ทุกเวลา ไม่ต้องเดินทางมาเรียน ทำให้ประหยัดพลังงาน แต่แน่นอนว่าทั้งสองแบบนั้นเป็นการจัดสรรและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แน่นอนค่ะ

4. ตั้งใจและทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ และอย่างกระตือรือร้น เข้าใจทุกเนื้อหาอย่างถ่องแท้ ไม่เข้าใจตรงไหน สอบถามคุณครูทันทีหากปล่อยผ่านอาจจะไปเจออีกทีในห้องสอบ และจะทำไม่ได้ พลาดคะแนนฟรีเลยนะคะหมั่นทำโจทย์อยู่เสมอ การฝึกทำโจทย์จะช่วยให้น้องๆ ได้ลองใช้สูตร เจอกับโจทย์จริงๆ ได้ลองทำโจทย์บ่อยๆ หลายๆ แบบน้องๆจะเริ่มมีเทคนิคและสามารถพลิกแพลงแก้โจทย์ที่หลากหลายได้ด้วยตัวเอง เวลาลงสู่สนามสอบจริงจะได้มั่นใจในการทำข้อสอบสุดๆไปเลย

5. สร้างแรงบันดาลใจให้น้องเรียนออนไลน์อย่างมีเป้าหมาย มีของรางวัลเล็กๆน้อยๆให้ได้ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่ง ที่จะส่งเสริมให้น้องเกิดมีแรงจูงใจ ถึงจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ย่อมทำให้น้องเกิดความตั้งใจ และมีกำลังใจที่จะเรียนมากขึ้น


บทสัมภาษณ์ Exclusive.. เผยเคล็ดลับขั้นเทพ เตรียมตัวยังไงให้สอบติด สาธิตประสานมิตร โดยพี่นัท และพี่ซัน ผู้สอบติดประสานมิตรมาแล้ว

เตรียมตัวยังไงให้สอบติด

Bigbrain  : แนะนำตัวเองกันหน่อยจ้า

ซัน  : ผมชื่อเด็กชายพิชภพ บุนนาค จบชั้น ป.6 จากสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงปัจจุบันเรียน ม.1 โรงเรียน สาธิตประสานมิตร หลักสูตรอินเตอร์ครับ
นัท  : หนูชื่อเด็กหญิงณัฐวดี เชาอณาจิน มาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์  ตอนนี้เรียน ม.1 โรงเรียน สาธิตประสานมิต หลักสูตรปกติค่ะ


Bigbrain  : ได้เรียนที่ สาธิตประสานมิตรมาจะครบปีแล้วรู้สึกชอบอะไรในโรงเรียนนี้บ้าง

ซัน  : ผมชอบที่โรงเรียนนนี้เป็นโรงเรียนชิวๆอ่าครับ ไม่มีกฏระเบียบมากมาย ไว้ผมยาวได้ เถียงครูได้(ล้อเล่นนะครับ 55)แล้วก็มีกิจกรรมเยอะทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ
นัท : ส่วนนัทประทับใจอาจารย์ที่นี่มากคะ อาจารย์ที่นี่ใส่ใจดูแลเด็กนักเรียนดีมากกกกก  แล้ววิชาการที่นี่ก็สอนเข้มข้นมาก เพราะเคยลองเอาหนังสือเรียนที่นี่ไปเปรียบเทียบกับเพื่อนในโรงเรียนอื่นที่ สาธิตประสานมิตรสอนเข้มกว่ามากคะ


Bigbrain  : แล้วทำไมถึงอยากสอบเข้า สาธิตประสานมิตร

ซัน  : เดิมผมเรียน EP มาอยู่แล้วฮะ พอจะสอบเข้า ม.1 ก็เลยอยากเรียนที่เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษต่อ แล้วพอเสิร์ชหาข้อมูลแล้วเจอสาธิตประสานมิตรที่เป็นโรงรียนสาธิตที่เปิดหลักสูตร inter แบบจริงจังเป็นที่แรก ผมคิดว่ามันน่าจะเจ๋งมากก็เลยอยากมาเรียนที่นี่

Bigbrain  : บร๊ะะ !!! แล้วนัทล่ะจ๊ะทำไมถึงอยากสอบเข้าที่นี่จ๊ะ

นัท : หนูได้ยินจากรุ่นพี่หลายๆคนเล่าให้ฟังว่าโรงเรียนนี้วิชาการดีมาก ครูดี สังคมดี แล้วแม่ก็อยากให้เข้าที่นี่ด้วยเพราะเดินทางสะดวก หนูก็เลยเริ่มตั้งใจเริ่มเตรียมตัวสอบตั้งแต่ ป.5 เลยค่ะ


Bigbrain  : แล้วพวกเราแต่ละคนมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ซัน  : ปกติผมเรียนพิเศษมาตลอดอยู่แล้วครับ แต่เรียนแบบเรื่อยๆชิวๆไม่ซีเรียสอะไรมากแต่พอมาได้เรียนกับครูชัยตอน  ป.6 ที่ Bigbrain ก็ตั้งใจเรียนมากขึ้น เรียนพิเศษหนักขึ้น อย่างวันเสาร์ก็เรียนที่ Bigbrain ประจำ วันอาทิตย์ก็ต้องออกมาเรียนคอร์สภาษาอังกฤษสำหรับสอบเข้า inter อีก นี่ยังไม่นับเรียนพิเศษที่อื่นอีกนะครับ
นัท : ส่วนหนูเริ่มเรียนพิเศษจริงๆตอน ป. 5 ค่ะ ก็เรียนทุกวิชาที่ใช้สอบเลยแล้วก็ลองเรียนมาหลายที่ แต่พอมาเจอที่นี่ก็ชอบมากคะ แล้วก็ตอน ป.6 ก็เรียนที่นี่มาโดยเป็นหลักตลอด แล้วก็ต้องอ่านหนังสือทุกวันเหมือนกัน หนูจะตื่นตั้งแต่ตีห้ากว่าๆ อ่านหนังสือหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน ตอนเย็นกลับมาก็รีบทำการบ้าน รีบอาบน้ำทานข้าว ก็จะมีเวลาอ่านอีก 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน


Bigbrain  :  แล้วมารู้จัก Bigbrain ได้ไงเอ่ย?

ซัน  : พอผมอยากสอบเข้า สาธิตประสานมิตรอย่างจริงจัง ก็เลยเสิร์ช google หาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบมากขึ้น แล้วพอดีได้ เห็นเว็บ bigbrain ขึ้นเป็นเว็บแรก  ก็เลยคลิ๊กเข้ามาอ่านดู เห็นข้อมูลแน่นมากแล้วก็คอร์สน่าเรียนมาก ก็เลยขอแม่ลองมาสมัครเรียนดูครับ
นัท : ส่วนหนูจริงๆ หนูไม่รู้จักที่นี่อ่าคะ พอดีแม่อยากรู้ว่าปกติโรงเรียนสาธิตจะสอบกี่วิชาบ้าง ก็เลยลอง เสิร์ชหาข้อมูลดู ก็เจอเว็บ bigbrain เหมือนกันก็เลยคลิ๊กเข้ามาดู แล้วพอดีตอนนั้นที่โรงเรียนจัดสัมมนาผู้ปกครองอะไรสักอย่างอยู่พอดี แม่ก็เลยมานั่งฟัง แล้วคุณแม่ชอบมากเลยกลับมาบอกหนู ให้หนูมาเรียนที่นี่


Bigbrain  : คิดว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เราสอบเข้า สาธิตประสานมิตรได้

ซัน  : ความอดทนครับ ผมว่าถ้าจะเรียมตัวสอบแบบเอาจริง มันจะเหนื่อยมาก ซึ่งต้องใช้ความอดทนมาก ถ้าเราอดทนสามารถจนถึงจุดหนึ่งได้จนสอบติดได้ มันก็คุ่มค้า เหนื่อยแต่มันก็คุ้มครับ
นัท : หนูว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แรงบันดาลใจคะแรงบันดาลใจที่เราอยากจะสอบได้จริงๆ ถ้าเรามีสิ่งนี้ เวลาไปเรียนพิเศษเราก็อยากจะตั้งใจเรียน เวลากลับบ้านเราก็อยากจะอ่านหนังสือ เวลาเหนื่อยก็จะมีกำลังใจอ่านหนังสือต่อค่ะ


เตรียมตัวยังไงให้สอบติด

Bigbrain  :  สุดท้ายมีอะไรฝากถึงน้องๆที่อยากเข้าสาธิตประสานมิตรบ้าง

ซัน  : ก็อยากเชิญชวนน้องๆให้มาสอบโรงเรียน สาธิตประสานมิตรกันเยอะๆนะครับเพราะเป็นโรงเรียนที่ดีจริงๆ โดยเฉพาะหลักสูตร inter เรียนที่นี่เหมือนได้เรียนที่อังกฤษเลย แบ่งเป็น 3 เทอมเหมือนกัน หลักสูตรเหมือนกันทุกประการ เรียนที่นี่แล้วแฮปปี้มากครับ
นัท : ใช่คะ เรียนที่นี่มีความสุขมาก ทำให้หนูอยากไปโรงเรียนทุกวันเลย ส่วนเรื่องการเตรียมตัว ก็อยากฝากน้องๆว่า การเลือกที่เรียนพิเศษต้องเลือกที่ดีๆ ส่วนตัวยอมรับว่าเรียนพิเศษมาหลายที่ตั้งแต่เด็ก แต่ที่สอนไม่ตรงแนวข้อสอบทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ แต่พอหนูมาเรียนที่นี่แล้วเอาไปใช้สอบหนูพูดได้เลยว่าที่นี่สอนตรงมากคะ แล้วที่ครูชัยย้ำกับพวกเราเสมอคือ เวลาเรียนพิเศษการตั้งใจเรียนในห้องว่าสำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการกลับไปทบทวนบทเรียนทุกเรื่องที่บ้าน โจทย์เลขก็ต้องกลับไปทำซ้ำทุกข้อ ยิ่งเรื่องยากต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ นี่แหละค่ะเคล็ดลับของหนู ขอให้น้องทุกคนโชคดีนะคะ แล้วเจอกันที่โรงเรียนค่ะ


พี่แพงเผยเคล็ดลับขั้นเทพสู่รุ่นน้อง….. ทำอย่างไรให้สอบติดสาธิตปทุมวัน

Bigbrain  : แนะนำตัวเองกันหน่อยจ้า

แพง  : ชื่อเด็กหญิงแพงพธู โนวังหาร มาจากโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา สอบติด ม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวันหลักสูตรปกติค่ะ


Bigbrain  : ความประทับใจที่ได้เรียนที่ BigBrain

แพง  : การได้เรียนที่ Big Brain คุณครูสอนเข้าใจทุกท่านเลยค่ะ ใจดี แถมมีเคล็ดลับดีๆ สำหรับการสอบเขาสาธิตค่ะ แพงเรียนที่นี่ตั้งแต่ป.5 ตั้งแต่คอร์ส Fundamental จนถึงคอร์สตะลุยโจทย์เลยค่ะ ตั้งใจเรียนตลอดค่ะ มาทำความฝันให้เป็นจริงกับ Big Brain กันนะคะ


Bigbrain  : มีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างถึงสอบติดสาธิต

แพง  : หลักๆเลยก็เรียนพิเศษกับที่บิ๊กเบรนค่ะ เพราะว่าไม่ได้เรียนพิเศษที่อื่นเลยค่ะ ปกติจะเข้าเรียนทุกครั้งที่มีเรียนเลยค่ะ ใกล้สอบก็จะอ่านหนังสือทบทวนทุกเล่ม และทุกคอร์สของบิ๊กเบรนเลยค่ะ ตอนเย็นกลับมาก็รีบทำการบ้าน แล้วคุณแม่ก็ชอบหาโจทย์มาให้ทำบ่อยๆทุกวัน เพราะว่าหากเราได้ฝึกทำโจทย์ที่หลากหลายแนว เวลาเจอข้อสอบของจริง เวลาโจทย์ถามแนวไหนก็จะได้ทำได้ หลังทำโจทย์เสร็จก็จะมีเวลาเล่นเกมนิดหน่อยค่ะ


Bigbrain  :สุดท้ายมีเคล็ดลับอะไรให้น้องๆบ้างคะลูก ( เดี๋ยวน้องๆจะได้เรียนกันต่อแล้วค่า >< )

แพง  : เคล็ดลับของแพงก็คือตั้งใจเรียนที่โรงเรียน และตั้งใจฟังที่พี่ๆสอนที่บิ๊กเบรนค่ะ เพราะข้อสอบก็ออกจากเนื้อหาที่เรียนเลยค่ะ ทบทวนและอ่านหนังสือบ่อยๆ หาโจทย์มาทำเพิ่มเติมเยอะๆ หากมีคำถามก็สอบถามคุณครูได้เลยค่ะ

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

4 สนามสอบเข้าม.1

สนามสอบที่ 1 สาธิตปทุมวัน (จาก 4 สนามสอบเข้าม.1)

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เป็น 1 ใน 4 สนามสอบเข้าม 1 สนามแรก
ตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนอังรีดูนังต์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เป็นสนามสอบแรกที่น้องๆ หรือคุณพ่อ คุณแม่ มีความตั้งใจจะสอบเข้ากันอย่างมากมาย ทําให้อัตราการแข่งขันโรงเรียนนี้สูงมากๆ ปกติแต่ละปีนักเรียนสมัครสอบ 2,500 – 4,000 คน (บางปีพีคๆสูงถึง 4,300 คน) จากจํานวนรับ 120 คน สัดส่วนการแข่งขันอยู่ที่ 1:35 โดยประมาณ อัตราการแข่งขันสูงขนาดนี้ น้องๆ ที่ต้องเตรียมตัวสอบโรงเรียนนี้ จึงมัก เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ป.4 ป.5 กันเลยทีเดียว ปัจจุบันโรงเรียน หลักสูตรการเรียนการสอนจํานวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรปกติ และ หลักสูตรภาษาอังกฤษ ในโครงการ นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษภาคภาษาอังกฤษ (English Program for Talented Students หรือ EPTS) ซึ่งวิชาที่ใช้สอบภาคปกติจะใช้สอบแค่ 4 วิชาเท่านั้น คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา ส่วนภาคภาษาอังกฤษ (EPTS) จะใช้สอบถึง 5 วิชา ด้วยกันคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ

สนามสอบที่ 2 สาธิตประสานมิตร (จาก 4 สนามสอบเข้าม.1)

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ตั้งอยู่เลขที่ 174 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันโรงเรียนมีหลักสูตรการเรียนการสอนจํานวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรปกติ และ หลักสูตรนานาชาติ (Satit Prasarnmit International Programme หรือ SPIP) ซึ่งวิชาที่ใช้สอบภาคปกติจะใช้สอบทั้งหมด 5 วิชาคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความถนัดทางการเรียน และในปี 2561 เป็นต้นมา ข้อสอบสอบเข้าม.1 จะมีวิชาหนึ่งเข้ามาด้วยนั้นคือ วิชา “ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทําให้วิชาที่ใช้สอบทั้งหมดจะเป็น 6 วิชา ส่วนภาคนานาชาติ (SPIP) จะใช้สอบ ทั้งหมด 3 วิชาคือ SCIENCES MATHEMATICS ENGLISH

4 สนามสอบเขาม.1

สนามสอบสองสนามแรกถือเป็นสนามสอบที่มีอัตรา การแข่งขันเป็นอันดับต้นๆของไทยเลยก็ว่าได้ คือ โรงเรียนสาธิตปทุมวัน และโรงเรียนสาธิตประสานมิตร ซึ่งทั้ง 2 โรงเรียนมีจุดที่เหมือนกันคือเป็นโรงเรียนใน สังกัด มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเหมือนกัน แต่ นอกนั้นแตกต่างกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการบริหาร จัดการแยกกัน ส่วนในด้านของการสอบเข้า ทั้งสอง โรงเรียนจะใช้วิชาสอบที่แตกต่างกัน รวมถึงหลักสูตรที่ เปิดสอนก็จะแตกต่างกัน

สนามสอบที่ 3 ห้องเรียนพิเศษ

โรงเรียนที่อยู่ในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ว่าจะเป็น Gifted EP GATE IEP ฯลฯ ซึ่งแต่ละ โรงเรียนก็จะมีห้องเรียนพิเศษไม่เหมือนกัน อย่างเช่น โรงเรียนสวนกุหลาบก็จะมีทั้ง ภาค Gifted และ ภาค EP ซึ่งทั้ง 2 ภาค จํานวน นักเรียนที่รับก็จะไม่เหมือนกัน วิชาที่ใช้สอบก็แตกต่างกันด้วยอย่างภาค Gifted ใช้สอบ 4 วิชา คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย สัดส่วนคะแนนแต่ละวิชาก็ไม่เท่ากัน จะอยู่ที่ 40 : 40 : 10: 10 ส่วนภาค EP จะสอบเพียง 3 วิชา คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ แต่มีเพิ่มการสอบสัมภาษณ์อ่าน/ตอบโต้ได้ ซึ่งสัดส่วนคะแนนแต่ละวิชาก็ไม่เท่ากัน จะ อยู่ที่ 25 : 25 : 40 : 10 ส่วนโรงเรียนอื่นๆก็จะมีห้องเรียนพิเศษอื่นๆที่แตกต่างกันไป แต่ทุกโรงเรียนจะมีการสอบคัดเลือกในวันเดียวกัน เพื่อป้องกันการสมัครสอบทุกโรงเรียน และอาจจะมีการสละสิทธิ์ที่นั่งเรียนเกิดขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกโรงเรียนที่จะสอบให้ดี ว่ามีหลักสูตรไหนเปิดสอนบ้าง เพื่อเตรียมตัวสอบในสนามสอบที่ 3 นี้อย่างมั่นใจ

สนามสอบที่ 4 ห้องเรียนปกติ

เป็นสนามสอบสุดท้ายของน้องๆชั้นป.6 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทุก โรงเรียนจะมีการสอบคัดเลือกในวันเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งรอบนี้จะมีแบ่งนักเรียนเป็น 4 ประเภท คือ
1. นักเรียนในเขตพื้นที่บริการ คือ นักเรียนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน อย่างน้อย 2 ปี นับถึงช่วง เดือนพฤษภาคม และต้องอาศัยอยู่กับบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เป็นเจ้าบ้านหรือเจ้าของบ้าน (ผู้ปกครองควรโทรสอบถามกับทาง โรงเรียน เพื่อตรวจสอบว่าที่อยู่ของน้องอยู่ในเขตพื้นที่บริการหรือไม่)
2. นักเรียนทั่วไป คือ นักเรียนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่บริการ หรือนอกเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน
3.นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ
4.นักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ
การที่ได้รู้ว่าเราเป็นนักเรียนประเภทใดจะทําให้คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนเตรียมความพร้อมได้ถูกต้อง ถ้าเป็นนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ หรือมีเงื่อนไขพิเศษ การรับนักเรียนจะขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณารับนักเรียนของคณะกรรมการรับนักเรียนระดับ โรงเรียน โดยแต่ละโรงเรียนอาจจะมีแผนการรับนักเรียนกลุ่มนี้แตกต่างกันไป

>>> น้องๆ ป.6 จะมีโอกาสสอบทั้งหมด 4 สนามสอบเข้าม.1 ด้วยกัน เพราะสนามสอบที่ 1 2 3 และ 4 วันที่สอบจะไม่ตรงกันเลยใน แต่ละสนาม ซึ่งสนามสอบโรงเรียนสาธิตปทุมวัน และโรงเรียนสาธิตประสานมิตรถือว่าเป็นสองสนามแรกที่เด็กๆทุกคนใฝ่ฝันและอยาก สอบเข้ามากที่สุด ข้อสอบหินมากๆ ทั้งความซับซ้อนของโจทย์ รวมถึงเป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงมากๆ เมื่อเทียบกับสนาม สอบที่ 3 และ สนามสอบที่ 4 ซึ่งจะจัดสอบก่อนเลยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และจะประกาศผลก่อนเสมอ ดังนั้นน้องๆจะมีโอกาสสอบ ทั้ง 4 สนามกันเลย เพราะฉะนั้นหากน้องๆ หรือคุณพ่อวางแผนสอบเข้าโรงเรียนไหน หลักสูตรไหน ควรเตรียมตัวน้องๆที่ต้องอาศัยการ สอบคัดเลือกเพื่อเป็นใบเบิกทางเข้าสู่โรงเรียนที่ใฝ่ฝัน เตรียมพร้อมความรู้ในวิชาที่ใช้สอบให้ถูกต้อง ไม่ลืมอ่านในวิชาที่ควรอ่าน และ ไม่อ่านวิชาที่ไม่จําเป็นต้องใช้จนเสียเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่สําคัญ และห้ามพลาดโดยเด็ดขาด


ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

คะแนนพรีเทสบอกอะไรได้บ้าง ?

คะแนนพรีเทสบอกอะไรได้บ้าง ?

ในกรณีของป.4-ป.5 นั้น คะแนนพรีเทสบอกอะไรได้บ้าง ? การสอบ Pretest นั้น จะช่วยประเมินให้น้องๆว่ามีวิชาไหนดี วิชาไหนไม่ดี จะได้วางแผนการเตรียมตัวสอบให้แก้ไขได้ทันการ รวมถึงเทียบคะแนนกับกลุ่มใหญ่ว่าตนเองอยู่ลำดับประมาณไหนส่วน ป.6 แล้ว หลังจากประกาศผลน้องๆจะมีเวลาในช่วงโค้งสุดท้ายประมาณ 10-20 วันที่จะเสริมจุดแข็ง ลดจุดอ่อนในวิชาที่ทำคะแนนได้ไม่ดี รวมถึงช่วยประเมินโอกาสว่าน้องมีโอกาสสอบเข้ามากน้อยเพียงใด ถ้าโอกาสสอบได้ค่อนข้างน้อย ก็จะได้เปลี่ยนเป้าหมายไปเน้นเข้าโรงเรียนอื่นแทนการประกาศผลสอบ Pretest นั้นจะประกาศทั้งคะแนนดิบ คะแนนรวม T-Score ลำดับที่ ทั้งแยกแต่ละรายวิชาและรวมทุกวิชาน้องๆจะสามารถทราบได้ทันทีเลยว่า วิชานี้น้องเตรียมตัวมาดีพอแล้วหรือยัง วิชาไหนเป็นจุดอ่อนที่ต้องแก้ไข วิชาไหนเป็นจุดแข็งที่โอเคแล้วถ้าถามว่าเวลาแค่ไม่ถึงเดือน แก้ไขทันหรอ? คำตอบคือถ้าทำเต็มที่ อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้นล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่นน้องคนนึงเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาพรีเทสต์ได้ที่ 400 กว่าๆ (หมายถึงไม่ติด เพราะจำนวนรับเพียง 120) เขาก็สามารถใช้เวลาที่เหลือในการปรับปรุงตนเอง กระทั่งเวลามาสอบจริงได้ที่ 10 กว่าๆ (ซึ่งถือว่าเก่งอัจฉริยะมากๆ)

คะแนนพรีเทสบอกอะไรได้บ้าง

7 คำถามยอดฮิต สอบ PRE TEST สาธิต ยังไง?

1. สอบวิชาอะไรบ้าง?
– โรงเรียนสาธิตปทุมวัน :: เด็กทุกคนสามารถ สอบวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ แต่ถ้าสอบจริง
ภาคปกติ สอบ 4 วิชา คือวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา
ภาค EPTS สอบ 5 วิชา คือวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ

– โรงเรียนสาธิตประสานมิตร :: สอบทั้งหมด 6 วิชา คือสอบวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และความถนัดทางการเรียน
วันสอบจริงก็สอบ 6 วิชานี้เช่นกัน

2. เด็กชั้นป. ไหน สอบได้บ้าง?
โรงเรียนสาธิตปทุมวัน และสาธิตประสานมิตร
สามารถสอบได้ตั้งแต่ชั้น ป.4 – ป.6

3. สมัครที่ไหน ?
– สาธิตปทุมวัน ดาวน์โหลดใบสมัคร https://www.satitpatumwan.ac.th
วันที่รับสมัคร (ยื่นเอกสาร) *นักเรียนไม่จำเป็นต้องไปก็ได้*

– สาธิตประสานมิตร สมัครทางเว็บไซต์ https://www.spsm.ac.th/home/
สมัครออนไลน์ ปริ้นสลิปจ่ายเงินที่ธนาคารกรุงไทย
และเข้าเว็บเพื่อไปปริ้นบัตรประจำตัวผู้สอบ

4. ข้อสอบ Pre test เหมือนข้อสอบจริงไหม?
ไม่เหมือนข้อสอบจริงทั้งสองโรงเรียน เพราะถ้าข้อสอบจริง เอาข้อสอบ Pre-test มาออก เด็กที่สอบ Pre-test ก็จะรู้ข้อสอบก่อน และได้เปรียบเด็กที่ไม่ได้มาสอบ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ จำนวนข้อสอบ แนวข้อสอบ ระดับความยาก การประยุกต์ความซับซ้อนของโจทย์ จะใกล้เคียงกัน อาจจะยากกว่า หรือง่ายกว่า แค่ในบางข้อเท่านั้น

5. ถ้าสอบได้คะแนนดี/ไม่ดี มีผลต่อการสอบเข้าไหม?
ไม่มีผลต่อการสอบเข้า ต่อให้น้องได้ที่1 ก็ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนจะรับเข้าม.1 เลย เป็นการทดลองสอบเบื้องต้นเท่านั้น แต่สาธิตประสานมิตรจะมีการแจกทุนการศึกษา โล่ และเกียรติบัตร ให้กับนักเรียนที่ได้คะแนนดี

6. น้องอยู่ป.4 ป.5 ให้ไปสอบดีไหม?
การไปสอบ Pre test

– น้องๆจะได้ลองสนามสอบที่ใกล้เคียงของจริง พบกลุ่มเด็กที่สอบแข่งขันจริงๆ ได้ทำข้อสอบที่เป็นระดับสอบเข้า เพราะเด็กบางคนอยู่ ป.4 หรือ ป.5 แต่เรียนจบเนื้อหา ป.6 แล้ว ก็สามารถประเมินความรู้ของน้องได้ว่าน้องทำข้อสอบได้มากน้องเพียงใด

– น้องได้เห็นบรรยายกาศสถานที่ของโรงเรียน เพราะเด็กบางคนอยากเข้าโรงเรียนโน้นนี่นั้น อาจเป็นเพราะด้วยสถานที่ ห้องเรียน สิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ

– น้องๆจะได้ลองทำข้อสอบที่เป็นการฝนลงคำตอบเป็นครั้งแรก เพราะที่โรงเรียนของน้องส่วนใหญ่ ข้อสอบจะเป็นการเขียน การกากบาท เป็นช้อย แต่ในสนามสอบเข้าจริงๆจะเป็นการฝนคำตอบด้วยดินสอ 2B ทั้งหมด และตรวจด้วยคอมพิวเตอร์ เพราะฉะนั้น เทคนิคการฝน การลบ ก็เป็นเรื่องที่น้องๆต้องรู้ ว่าฝนไปทำข้อสอบไป หรือค่อยมาฝนคำตอบทีเดียวตอนทำข้อสอบเสร็จ ลบกระดาษสะอาดไหม? ฝนเต็มวงหรือไม่? ซึ่งส่งผลต่อคะแนนที่ออกมาได้

– ได้ทราบว่าน้องๆได้คะแนนวิชาไหนเท่าไหร่ เด็กบางคนได้คะแนนที่โรงเรียนอยู้ในระดับกลาง แต่มาสอบกลับได้คะแนนดี หรือบางคนที่โรงเรียนคะแนนดีแต่มาสอบกลับได้คะแนนน้อย น้องๆจะได้รู้ว่าต้องพัฒนาอ่านหนังสือเพิ่มเติมในเนื้อหาวิชาไหนเป็นพิเศษ

แต่ก็จะมีน้องบางคน ขวัญเสียจากการสอบ เช่น เจอข้อสอบยาก ไม่ทำ ไม่อ่าน ไม่อยากสอบแล้ว หนูทำไม่ได้ ผมไม่อยากทำครับ แล้วพาลไม่อยากสอบเข้าโรงเรียนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะยาก เพราะทำไม่ได้ แต่บางสิ่งที่ยากที่ท้าทาย สิ่งนั้นจะทำให้เราเจริญเติบโต ต้องก้าวออกจาก comfort zone ของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องพูดคุย รวมถึงให้กำลังใจน้อง

7. คะแนน Pre test บอกอะไรได้บ้าง
– สำหรับน้องป.4 ป.5 สามารถดูพัฒนาการการทำข้อสอบได้คะแนนดีกว่าปีก่อนๆไหม และรวมถึงความรู้ที่น้องๆบางคนอาจจะเรียนบางวิชา ถึงเนื้อหา ป.6 หรือมัธยมแล้ว แต่พอทำข้อสอบแล้วได้คะแนนน้อย อาจจะเพิ่มเติมในส่วนของโจทย์ปัญหาในวิชานั้นๆ ที่เจาะลึกลงไปอีก โจทย์ที่ซับซ้อน คิดหลายขั้นตอนมากขึ้นกว่าเดิม
.
– สำหรับน้องป.6 สามารถโอกาสการสอบติดได้คร่าวๆ ว่ามี% มากน้อยแค่ไหน หรือควรเร่งสปีดอ่านวิชาอะไรในช่วงโค้งสุดท้ายนี้
โดยปกติ น้องที่ติดอยู่ในลำดับที่ 1-200 ก็จะมีลุ้นค่อนข้างเยอะ
แต่ไม่ได้หมายความว่า น้องที่ได้ลำดับที่มากกว่า 200 จะไม่มีโอกาสสอบติด


แต่โดยปกติเราจะดูที่ค่า T-score ของแต่ละวิชากันมากกว่า ถ้าได้เกิน70 ก็ถือว่าน้องทำวิชานั้นๆได้ดีมากๆแล้ว แต่ถ้า T-score ทุกวิชาเกิน 80 ส่งผลให้ T รวมเกิน 80 ใช้คำว่าน้องสอบติดชัวร์ก็ว่าได้
(อ่านเรื่อง ค่า T-score เพิ่มเติมได้ ที่นี่ )

คะแนนพรีเทสบอกอะไรได้บ้าง ควรไปสอบไหม

รู้แล้วว่า ” คะแนนพรีเทสบอกอะไรได้บ้าง ? “ และ ” น้องควรไปสอบพรีเทสไหม ? “

หากพูดง่ายๆ การสอบพรีเทสก็คือการซ้อมสอบเสมือนจริงนั่นเอง
– ข้อสอบเสมือนจริง (ออกโดยคนออกข้อสอบเดียวกับข้อสอบจริง)
– จำนวนข้อเหมือนจริง
– บรรยากาศเหมือนจริง
– สถานที่จริง
และที่สำคัญที่สุด คือ ตัดคะแนนแบบเสมือนจริงเลย มีการคิดคะแนนเป็น T-Score และ Ranking คะแนนเหมือนสอบจริงเด๊ะๆ
การสอบ Pretest สาธิตปทุมวันนั้น โดยปกติทางโรงเรียนจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมหรือช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี และจะประกาศผลสอบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนสาธิตประสานมิตรนั้นโดยปกติทางโรงเรียนจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม และประกาศผลประมาณช่วงปลายเดือนมกราคม

และถามว่า Pretest สาธิตปทุมวัน จำเป็นต้องสอบหรือไม่ คำตอบคือไม่จำเป็น เนื่องจากไม่มีผลใดๆต่อการสอบเข้าทั้งสิ้น สอบก็ได้ไม่ต้องสอบก็ได้ แต่ถ้าถามว่าควรไปสอบหรือไม่ ตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยครับ ว่าควรแน่ๆ (ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป)

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่