Category Archives: แนวข้อสอบ

แนวข้อสอบเก่า SPIP ครบ 3 วิชา

ตัวอย่างข้อสอบด้านบน
ข้อ A : Name the organs
a. Lung, Lungs
b. Stomach
c. Liver
d. Brain
———
ข้อ  B: D , B , A
 
ข้อนี้น้องๆต้อง รู้จักสัญลักษณ์เรื่องของไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแอมมิเตอร์  โวลต์มิเตอร์  หลอดไฟ  สวิตซ์. คำศัพท์ เช่น Lamp , Ammeter (current) , Voltmeter (electrical potential , Cell , Switch
คำตอบข้อ A : Add another cell 
—————-

ข้อสอบเหล่านี้จะแบ่งน้องๆออกเป็น 3 แบบ
1. ตอบได้ และ เขียนตอบถูก
2. ตอบได้แต่เขียนสะกดคำศัพท์ผิด
3. ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือ ตอบไม่ได้เลย


แนวข้อสอบ Math และ English

ข้อสอบนี้ดูเหมือนง่ายแต่จริงๆแล้วมีเด็กหลายคนที่ตอบผิด เพราะน้องๆจะ ยังไม่ค่อยแม่นในเรื่องของจำนวนเต็มลบ ว่าถ้าถัดไปทางซ้ายมือก็จะติดลบเยอะขึ้นในข้อ a ตอบ -150 องศาเซลเซียส
คำตอบข้อ b ตอบ Jupiter and Mercury น้องๆจะต้องรู้จักการประมาณตัวเลขว่า “ใน 1 ช่องจะเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส” เพราะฉะนั้นจะต้องหา ดาว 2 ดวงที่ห่างกัน 5 ช่องนั่นเอง

อีกหนึ่งลักษณะข้อสอบสอบเข้าหลักสูตร SPIP นี้จะเป็นแนวลักษณะเป็นข้อสอบใหญ่และมีข้อสอบย่อย ทำให้น้องจะต้องแม่นเนื้อหาในเรื่องนั้นๆ เพราะถ้าไม่รู้เนื้อหาในข้อนั้นน้องก็จะพลาดคะแนนไปได้ง่ายๆทั้งข้อใหญ่และข้อย่อย
.
รวมถึงข้อสอบย่อยแต่ละข้อจะเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเป็นการนำเอาคำตอบในข้อย่อยด้านบนมาใช้ในคำตอบข้อสอบย่อยข้อถัดไป
.
เพราะฉะนั้นน้องๆจะต้องฝึกทำตัวข้อสอบเก่าย้อนหลังให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะได้ดูแนวทางข้อสอบ ดูว่าโจทย์ต้องการอะไรในเรื่องนั้น เพื่อหาคำตอบให้ตรงกับจุดประสงค์ของโจทย์ข้อนั้นๆให้ได้มากที่สุด

ตะลุยคลังข้อสอบเก่า ครบ 5 วิชา ใหม่ล่าสุด

ตะลุยโจทย์สอบเข้าม.1โรงเรียนสาธิต

ตะลุยโจทย์คลังข้อสอบเก่าย้อนหลังสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต

น้องๆหลายคนมีแพลน ที่จะสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตอาจจะยังไม่รู้แนวข้อสอบหรือลักษณะข้อสอบที่มีความยากและซับซ้อนกว่าโรงเรียนทั่วไป ทำให้น้องๆจะต้องฝึกฝน แบบฝึกหัดที่หลากหลาย จุดที่ข้อสอบชอบเอามาออกบ่อยๆ หรือแม้กระทั่ง ต้องรู้ทฤษฎีและเทคนิคในการทำข้อสอบ บางข้อรู้ทริคแค่นิดเดียว ก็ได้คำตอบทันที
บางข้อ เปลี่ยนมุมมองการคิด ก็ตอบได้ทันที เป็นเรื่องของการฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับศึกษาเนื้อหาเชิงลึกที่ใช้ในการสอบเข้า จะช่วยให้ทำโจทย์ได้คะแนนที่ดีขึ้น เข้าใจมากขึ้นได้ เป็นอย่างดีอีกด้วย

จับเวลาทำข้อสอบ 
วิทยาศาสตร์ 50 ข้อ เวลา 45 นาที
คณิตศาสตร์ 25 ข้อ เวลา 60 นาที
ภาษาไทย  50 ข้อ เวลา 45 นาที
สังคมศึกษา  50 ข้อ เวลา 45 นาที
ภาษาอังกฤษ 50 ข้อ เวลา 45 นาที
รวมทั้งหมด 225 ข้อ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง

คำถามที่เจอบ่อย
ผู้ปกครองหลายท่านช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสอบ จะถามว่าจะลงทะเบียนคอร์ส สรุปเนื้อหาขั้นเทพหรือว่าคอร์สตะลุยโจทย์ ยอดฮิตของสถาบันดี?
 
หากน้องๆทำโจทย์ ทั้ง 5 วิชาได้เกิน 80% สามารถลงคอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิตเพื่อเพิ่มเติมและฝึกฝนโจทย์ปัญหาและแนวข้อสอบเก่าได้เลย คอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิต” รวมโจทย์กว่า 1,800 ข้อ
.
แต่ถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 80% จะแนะนำทบทวนพื้นฐานเนื้อหา “คอร์สสรุปเนื้อหาขั้นเทพ” ควบคู่ไปพร้อมกับคอร์สตะลุยโจทย์ เพื่อเพิ่มเติมเนื้อหาพื้นฐาน สรุปรวมแบบครบทุกเรื่องที่ใช้สอบ พร้อมสอดแทรกเทคนิคการจำ สูตรที่ต้องรู้ ไว้ให้น้องๆ เข้าใจง่าย และเอาไปใช้ทำโจทย์ได้จริง


1. ข้อความใดถูกต้อง

ก.  เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น เสียงเดินทางผ่านอากาศได้เร็วขึ้น
ข.  เสียงเป็นคลื่นตามยาว ถ่ายทอดพลังงานไปโดยไม่อาศัยตัวกลาง
ค.  เสียงเป็นคลื่นตามขวาง ถ่ายทอดพลังงานไปโดยอาศัยตัวกลาง
ง.  เสียงเดินทางในตัวกลางสถานะของเหลวได้เร็วกว่าเดินทางในตัวกลางสถานะของแข็ง

ภาพตัวอย่างเฉลยข้อที่ 1 จากคอร์สออนไลน์ตะลุยโจทย์ยอดฮิต

ภาพตัวอย่างเฉลยข้อที่ 1 จากคอร์สออนไลน์ตะลุยโจทย์ยอดฮิต


ข้อใดเป็นการสื่อสารแบบอวัจนภาษา

1. เธอพูดกับฉันเรื่องขนม
2. แม่โบกมือเรียกพ่อ
3. ลุงตะโกนเรียกน้า
4. ฉันเขียนจดหมายลางาน


สังเวชนียสถานในข้อใดไม่ได้มีที่ตั้งอยู่ในประเทศอินเดียในปัจจุบัน

1. สวนลุมพินีวัน
2. พุทธคยา
3. สารนาถ
4. กุสินารา


“The sun shines bright over the lake.” The words
SHINES BRIGHT should be changed to: 

1.shines brightful 

2.shines brightly 

3.bright shine 

4. no change

เจาะลึกแนวข้อสอบ Trilingual Plus+ M1

4 วิชาที่ใช้สอบ 8 ตัวอย่างข้อสอบเก่า 9 คำถามยอดฮิต

4 วิชาที่ใช้สอบ

1. ภาษาอังกฤษ
2. วิทย์-คณิต(ฉบับภาษาไทย)
3. วิทย์-คณิต(ฉบับภาษาอังกฤษ)
4. History

70%

คะแนนสอบ

15%

แฟ้มสะสมผลงาน

15%

คลิปวีดีโอแนะนำตัว


1. ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ มีทั้งหมด 60 ข้อให้เวลาทำ 60 นาที

2. ข้อสอบวิชาวิทย์ – คณิตฉบับภาษาไทย มีทั้งหมด 50 ข้อ
(วิทย์ 25 คณิต 25 ) ให้เวลาทำ 70 นาที
3. ข้อสอบวิชาวิทย์ – คณิตฉบับภาษาอังกฤษ มีทั้งหมด 50 ข้อ
(วิทย์ 25 คณิต 25 ) ให้เวลาทำ 30 นาที
4. ข้อสอบ history มีทั้งหมด 30 ข้อ ให้เวลาทำ 20 นาที

8 ตัวอย่างข้อสอบเก่า

1. Sheila is a little girl, but she is very ____to join adventure activities.
1. hopeful
2. grumpy
3. coward
4. brave

Choose the correct answer.
2. Which one is incorrect?

1. The baby drank a little milk.
2. We had very little chicken left.
3. Hanna sang sweet, so very few like her.
4. She has little time, so she doesn’t go there.

3. กำหนดสัญลักษณ์ของธาตุ 11K, 33L, 19M, 20N และ 35O
มีธาตุหมู่ 1 และหมู่ 5 รวมทั้งหมดกี่ธาตุ
(3 คือ 11K, 33L, 19M  )

4. จากรูป กำหนดให้ เส้นตรง AB  // เส้นตรง CD ถ้า  มุม ECD = 62o และ มุม EAB  = 58o แล้ว มุมกลับ CEA มีขนาดกี่องศา

1. 120 องศา
2. 240 องศา
3. 242 องศา

4. 302 องศา

5. Which part of the body is the pulse rate often measured?
1. Forehead
2. Kneecap
3. Nose
4. Wrist

6. What is numbers of faces? (6)
What is numbers of vertices? (8)
What is numbers of edges? (12)

7. Which king declared independence from Myanma in the first war?
1. King Naresaun
2. King Narai
3. King Borommatrailokkanart
4. King Borammakot

8. Jatusadom was used in the reign of………
1. King Borommatrailokkanart
2. King Naresaun
3. King Narai
4. King Ramathibodi I

8 ตัวอย่างข้อสอบเก่า 
– ภาษาอังกฤษ 2 ข้อ           – วิทย์-คณิต(ไทย) 2 ข้อ   
– วิทย์-คณิต(ENG) 2 ข้อ    – History 2 ข้อ

บทสรุป จะเห็นว่าตัวข้อสอบวิชาวิทย์คณิตฉบับภาษาอังกฤษจะไม่ยากเท่าวิชาวิทย์คณิตฉบับภาษาไทย เนื่องจากให้เวลาค่อนข้างน้อยในการทำข้อสอบ รวมถึงเป็นข้อสอบที่ไม่ต้องมีการคิดหลากหลายขั้นตอนและไม่ได้มีโจทย์ที่ซับซ้อน
.
ดูได้จากโจทย์วิทยาศาสตร์น้องๆสามารถเห็นปุ๊บตอบได้ปั๊บ เพียงแค่รู้คำศัพท์ วิทยาศาสตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น wrist (ข้อมือ) ดังตัวอย่างข้างบนที่ถามว่าอวัยวะส่วนใดที่นิยมใช้ในการวัดชีพจร
.
หรือแม้กระทั่งข้อสอบคณิตศาสตร์ ที่ต้องรู้ศัพท์คณิต เช่น faces (หน้าของรูปเรขาคณิต) น้องๆจะต้องนับ จำนวนหน้าของรูปเรขาคณิต สามมิติที่โจทย์ให้มา หรือต้องแปลศัพท์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ออก เช่น vertice , equivalent fraction , mean
.
ถ้าที่โรงเรียนน้องๆไม่เคยเรียนคณิตศาสตร์ฉบับภาษาอังกฤษ หรือ mathematics มาเลยก็จะค่อนข้างยาก เพราะน้องๆจะไม่ทราบหรือรู้คำศัพท์ ในวิชาวิทย์และคณิตเลย
.

วิชา history วิชานี้จะบอกว่าง่ายก็ได้จะบอกว่ายากก็ได้
เพราะถ้ารู้ก็สามารถตอบได้เลยภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้าไม่รู้ก็ไม่สามารถตอบได้เช่นเดียวกัน
นอกจากน้องๆต้องจำประวัติศาสตร์ไทย
เริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินทร์ รวมถึงเหตุการณ์ที่สำคัญ บุคคลที่สำคัญ กษัตริย์ที่ปกครอง ประเพณี การทำสงคราม

เนื้อหาเยอะมาก นอกจากน้องๆจะแม่นเนื้อหาแล้ว พอเจอโจทย์ภาษาอังกฤษเข้าไป บอกเลยว่ามึน เพราะบางทีนอกจากเราต้องรู้ศัพท์เช่น hostage(ตัวประกัน) , declared independent(ประกาศอิสรภาพ)
ยังต้องอ่านชื่อกษัตริย์ เป็นภาษาอังกฤษให้ได้ King naresun , King Borommatrailokkanart ที่ใช้เหมือนภาษาคาราโอเกะ ถ้าน้องๆเจอครั้งแรก อาจจะใช้เวลาในการอ่านหรือเรียบเรียนสิ่งที่โจทย์ถามนานแน่นอน
—————–


เปิดรับสมัครเรียนคลาสเรียนสดและคลาสออนไลน์
–  คลาสเรียนสด รับเพียง 40 คนเท่านั้น ดูระเบียบการที่นี่
(แผนที่สถาบันคลิกที่นี่)
– คลาสออนไลน์ เรียนผ่าน website สมัครตอนนี้เริ่มดูได้ทันที


ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
คลาสเรียนสด และ ออนไลน์ ที่นี่

ทดลองเรียนออนไลน์ 30 วันได้ที่นี่

ทดลองเรียน 30 วัน

ทดลองเรียนตัวอย่างคอร์สออนไลน์ 
ฟรี เอกสารประกอบการเรียน PDF
ฟรี สอบถามเพิ่มเติมไลน์ส่วนตัวหาคุณครูได้โดยตรง
ฟรี เรียนซ้ำทบทวนได้ใน 30 วัน
สมัครได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน ใช้เวลา ไม่ถึง 2 นาที เริ่มเรียนได้ทันที
1. กรอกข้อมูลลงทะเบียน
2. แจ้งลงทะเบียนทางไลน์
3. เริ่มเรียนได้ทันที

สำหรับน้องชั้นป.5

มีเอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 4 วิชา  จากคุณครูทั้ง 4 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูมาย , สังคมศึกษา ครูข้าวฟ่าง
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สำหรับน้องชั้นป.6

เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 5 วิชา  จากคุณครูทั้ง 5 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูเอก , สังคมศึกษา ครูเฟลม , ภาษาอังกฤษ ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สำหรับน้องที่จะสอบเข้า SPIP

เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 3 วิชา  SCIENCE ครูแอม ,MATH ครูปุณ , ENGLISH  ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สำหรับน้องป.6 โค้งสุดท้าย

คอร์สสรุปเนื้อหาขั้นเทพ : เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF  พร้อมวีดีโอการเรียนการสอน ครบทั้ง 5 วิชา  จากคุณครูทั้ง 5 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูเอก , สังคมศึกษา ครูเฟลม , ภาษาอังกฤษ ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

คอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิต : เอกสารประกอบการเรียน ไฟล์ PDF รวมข้อสอบกว่า 225 ข้อ พร้อมวีดีโอ การเรียนการสอน ครบทั้ง 5 วิชา  จากคุณครูทั้ง 5 ท่าน วิทยาศาสตร์ ครูแอม , คณิตศาสตร์ ครูโอชิน , ภาษาไทย ครูเอก , สังคมศึกษา ครูเฟลม , ภาษาอังกฤษ ครูโอรีโอ้ 
คลิกลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ PDF ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน  ได้ที่นี่ 

สรุปเนื้อหา 5 วิชา ที่ใช้สอบเข้าม.1

สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1

สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิต
“ครบ 5 วิชาที่ใช้สอบ”

น้องๆบางคนเตรียมตัวไม่ทัน หรือมีเวลาเตรียมน้อย สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1 ก็เป็นสิ่งที่น้องๆจะพลาดไม่ได้ หรือจะช่วยได้เยอะมากๆ น้องๆที่จะเตรียมตัวสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตในปีนี้หรือในปีข้างหน้า น้องส่วนใหญ่จะเรียนเนื้อหาในช่วงประถมปลาย มานานถึง 3 ปี  (ชั้นป. 4 – ป.6) ความรู้ที่ใช้ในการสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตนี้จะเป็นการรวบรวมความรู้ในชั้นประถมปลายรวมถึงเนื้อหาหัวข้อในระดับชั้นมัธยมต้นรวมอยู่ด้วยน้องๆจึงต้อง มีพื้นฐานที่แม่นและครบทุกเรื่อง ในแต่ละวิชาที่ใช้สอบ เพื่อที่จะได้ต่อยอดเรียนรู้เนื้อหาที่เกินหลักสูตรช่วงชั้นมัธยมต้น เพื่อทำคะแนนสอบ เข้าม.1 โรงเรียนสาธิตได้ให้ติด 1 ใน 100 คน

 
และมีน้องๆหลายคนรวมถึงผู้ปกครอง สอบถามกันเข้ามาเยอะมากว่ามีเนื้อหาและหัวข้ออะไรที่ใช้ ในการสอบเข้าม. 1 โรงเรียนสาธิตบ้างรวมถึงหัวข้อที่เกินหลักสูตร   วันนี้แอดมินรวบรวม สรุปเนื้อหา สอบเข้าม.1 ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่จะมาช่วยน้องๆในระยะเวลาอันสั้นนี้ได้อย่างมาก
 


 Live ย้อนหลังที่คุณครูทั้ง 5 ท่านของสถาบัน  มาแชร์ความรู้กับน้องๆ ตลอดช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ในหน้าเพจ Facebook ของสถาบัน  แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 week
Week ที่ 1 “สรุปหัวข้อที่ใช้ในการสอบเข้าม. 1” 

Week ที่ 2 “เจาะลึกเนื้อหาที่ใช้สอบ part 01”
Week ที่ 3 “เจาะลึกเนื้อหาที่ใช้สอบ Part 02”
Week ที่ 4 “ตะลุยโจทย์ตัวอย่างข้อสอบเข้าม.1”
กับคุณครูโอชิน,ครูแอม,ครูเอก,ครูเฟรม,และครูโอริโอ้


MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน”

https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/568733720734317/
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/271492070667825/
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/934564380374722/
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/691420291403496/
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/691420291403496/
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 1 ได้ที่รูปด้านบน

 


MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน” VDO โดนบล็อค ไม่สามารถดูได้
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/310355753308280/
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/537479480263423/
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/1879134045556604/
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/585291975723960/
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 2 ได้ที่รูปด้านบน


MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/3302839333116555/
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/748327169040299/
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/258651692060431/
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/2341937972777238/
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/278480833354113/
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 3 ได้ที่รูปด้านบน

MON “คณิตศาสตร์ ครูโอชิน”
https://www.facebook.com/…/a.54071372…/3071523636264887/
TUE “สังคมศึกษา ครูเฟลม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/1997019580433055
WED “วิทยาศาสตร์ ครูแอม”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/657891551474770
THU “ภาษาไทย ครูเอก”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/686332312214680
FRI ” ภาษาอังกฤษ ครูโอ”
https://www.facebook.com/Bigbraintalk/videos/4270594212951547
————————————
น้องๆสามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการเรียนของ week ที่ 4 ได้ที่รูปด้านบน

 

เรียนคอร์สตัวเต็ม สรุปเนื้อหาขั้นเทพ ครบ 5 วิชา 

✔️ ซื้อเล่มนี้เล่มเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อเล่มอื่นๆ
✔️ อ่านเล่มนี้เล่มเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปอ่านหนังสือหลายๆเล่ม
✔️ สรุปประเด็นที่ออกข้อสอบบ่อยๆ เน้น เนื้อหา แน่นๆ
เนื้อหาตรงเป๊ะ กับข้อสอบสอบเข้าม. 1 มากที่สุด
✔️ เป็นคอร์สที่ขายดีที่สุดของสถาบัน เรียนแล้วมากกว่า 500 คน
✔️ วิชาละ 7 ชั่วโมง รวม 5 วิชา ทั้งหมด 35 ชั่วโมง
 
หากดูวันละ 5 ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น
และหลังจากนั้นกลับมาดูซ้ำทบทวนได้ตลอด
 
ดูรายละเอียดคอร์สสรุปเนื้อหาขั้นเทพ ได้ที่นี่ 

เรียนคอร์สตัวเต็ม ตะลุยโจทย์ยอดฮิต

 
✔️ คอร์สพลิกชีวิตที่เปลี่ยนจากสอบตกเป็นสอบติด
✔️ ตะลุยคลังข้อสอบเก่า 10 ปีย้อนหลัง รวม 5 วิชา กว่า 1,800 ข้อ
✔️ สกัด ย่อย เฉพาะเรื่องที่ออกบ่อยๆ แนวข้อสอบฮิตๆ
เอามารวมไว้ในคอร์สนี้แล้ว
✔️ คอร์สที่ทุกคนให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไม่มีหัก น้องๆบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าข้อสอบ “ตรงเป๊ะมาก”
✔️ วิชาละ 12 ชั่วโมงเต็ม เป็นโจทย์ล้วนๆ พร้อมเฉลยละเอียด บอกเทคนิควิธีคิด สูตรลัด
การตัดช้อย เช็คช้อย รู้ทริคเทคนิคลับเพียบ
✔️ หยิบมาใช้เพียงไม่กี่ทริค ก็พลิกคะแนนได้อย่างมหาศาล
 
รายละเอียดคอร์สตะลุยโจทย์ยอดฮิตได้ ที่นี่ 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

เทคนิคทำข้อสอบคณิต


ครูโอชินจะนำความรู้ที่จะพาน้องๆ เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค สุดเจ๋งที่ได้อ่านหนังสือ “คู่มือครู” ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของระดับประถมศึกษ
า 

วันนี้จะมาแชร์วิธี เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆและผู้ปกครอง สำหรับการเตรียมตัวน้องๆสอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวันและโรงเรียนสาธิตประสานมิตร 

8 หลักการที่น้องๆสามารถเลือกใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาตร์ได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น 

1.  การวาดภาพ (Draw a Picture) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

การวาดภาพเป็นการจินตนาการ โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ให้ออกมาเป็นรูปภาพเพื่อสื่อสารให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้นมองเห็นภาพชัดเจน และเห็นแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ส่วนใหญ่นำมาใช้กับเรื่องเศษส่วนเป็นหลัก เช่น เช่นมีเงินอยู่ 100 บาทใช้ไป 3 ใน 5 เราเลยต้องวาด เป็นสี่เหลี่ยมทั้งหมด 5 ช่อง เพื่อแบ่งส่วนที่ใช้ไปและส่วนที่เหลืออยู่
 
ตัวอย่าง
โต้งมีเงินอยู่จำนวนนึง วันเสาร์ใช้ไป 300 บาท  วันอาทิตย์ใช้ไป 2 ส่วน 5 ของเงินที่เหลือ  ทำให้เงินที่เหลือคิดเป็นครึ่งนึงของเงินที่มีอยู่เดิมจงหาว่าโต้งมีเงินอยู่กี่บาท

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค
 

จากรูปเราจะเห็นว่าแบ่งสี่เหลี่ยมออกเป็นทั้งหมด 6 ช่อง
โดย 1 ช่องเท่ากับ 300 บาท
เดิมโต้งจะมีเงิน 6 ช่อง คิดเป็น 1,800 บาท

2. การหาแบบรูป (Find a Pattern) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิคนี้

การหาแบบรูปเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาโดยเราจะต้องหาความสัมพันธ์ความเชื่อมโยงของข้อมูลที่โจทย์ให้มาเพื่อสรุปเป็นรูปแบบหรือ pattern ของโจทย์เพื่อนำชุดความคิดนี้ไปใช้กับสิ่งที่โจทย์ถาม บางทีโจทย์ไม่ได้ให้ ความสัมพันธ์มาตั้งแต่แรก เราก็ต้องจำลองสร้างรูปแบบ เพื่อหาความสัมพันธ์ของโจทย์เอง  เรื่องนี้ใช้ได้บ่อยในเรื่องของจำนวนและพีชคณิต
 
เช่น  ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง เจ้าภาพจัดโต๊ะและเก้าอี้ดังรูปถ้าจัดโต๊ะและเก้าอี้ตามรูปนี้จนครบ 10 ตัว  จะต้องใช้เก้าอี้ทั้งหมดกี่ตัว
 
 
เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค
 
สังเกตว่าโจทย์ข้อนี้เราจะต้อง pattern ของโจทย์ โดยสามารถแบ่ง โต๊ะออกเป็น 2 แบบคือ  1. โต๊ะมุม  (โต๊ะซ้ายและขวาจะมี 3 เก้าอี้)
2. โต๊ะใน ( มีเก้าอี้ 2 ตัว)
 
เวลาเราคำนวณเราก็สามารถแยก 2 ประเภทนี้ได้
โต๊ะมุม 2 ตัว = 6 เก้าอี้ ,  โต๊ะใน  8 ตัว = 16 เก้าอี้
 
รวม 22 เก้าอี้

3. การคิดย้อนกลับ (Work Backward) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

การคิดย้อนกลับเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่ทราบผลลัพธ์แต่ไม่ทราบข้อมูลในขั้นตอนเริ่มต้น ซึ่งเราจะต้องนำตัวเลขที่เป็นผลลัพธ์มาหาคำตอบในค่าเริ่มต้น
 
เช่น   เพชรมีเงินอยู่จำนวนหนึ่งให้น้องชายไป 35 ให้น้องสาวไป 15 ได้รับเงินจากแม่อีก 20 บาท  ทำให้ขณะมีเพชรมีเงิน 112 บาทเดิมเพชรมีเงินกี่บาท
 
 
เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8

ข้อนี้น้องๆสามารถใช้การวาดภาพเข้ามาช่วยในการคิด เพื่อให้เห็นภาพได้มากขึ้นและเป็นการคิดย้อนกลับในการเปลี่ยนเครื่องหมายจากบวกไปเป็นลบ หรือจากลบ กลายเป็นบวก สุดท้ายคำตอบที่ได้เดิมเพชรมีเงิน 142 บาท

4. การเดาและตรวจสอบ (Guess and Check) – เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

การเดาและการตรวจสอบ เป็นการอาศัย ความน่าจะเป็นไปได้แล้วสุ่มหรือสมมุติ คำตอบขึ้นมา โดยเอาไปแทน ในโจทย์ ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้ถ้า โจทย์คณิตศาสตร์มี Choice ให้เลือก 1 2 3 4 เราอาจจะเอาคำตอบในแต่ละช้อยไปแทนค่าเพื่อดูว่า ควรจะตอบ Choice ไหน

แต่ถ้าข้อสอบไม่มี Choice เป็นอัตนัยเราต้องสมมติตัวเลขขึ้นมาเอง แบบนี้ต้องอาศัยโชคชะตาฟ้าลิขิตแทนค่าปุ๊บแล้วได้ปั๊บ ด้วยนะคะ

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8


ในบางครั้งเราสามารถลักไก่ใช้วิธีนี้ในการคิดโจทย์เลขได้เช่นเดียวกัน แต่บางทีค่อนข้าง ใช้เวลานานหรือแทนหลายตัวเลขไม่ได้คำตอบสักที จึงต้องใช้ วิธีอื่นมาช่วยในการหาคำตอบแทน ข้อนี้เราอาจจะใช้สมการเข้ามาช่วยในการหาคำตอบ
โดยแทน เป็นค่า x และ x + 36
และเขียนเป็นสมการ 2x + 36 เท่ากับ 136
จากนั้นเราจะหาค่า x ได้เท่ากับ 50
###ตัวเลข 2 ตัวเลยเท่ากับ 50 และ 86###

5. การทำให้ปัญหาง่าย (Simplify the problem) 

การทำให้ปัญหาง่ายเป็นการลดจำนวนที่เกี่ยวข้องกับโจทย์ปัญหาหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนรูปแบบความคิด หรือคิดนอกกรอบนั่นเองนะจ๊ะ

 

เรื่องนี้ครูโอชินสอนเป็นเทคนิค”เฟอร์นิเจอร์ห้ครูโอชิน” หมายความว่าเราจะต้องมอง เป็น ห้องสี่เหลี่ยม – ด้วยเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น
เพื่อหาพื้นที่ที่เหลือในรูปนี้(พื้นที่สีเขียว)
 
โจทย์ข้อนี้จะเห็นว่าพื้นที่แรเงารูปสามเหลี่ยม เราไม่สามารถรู้ฐานหรือสูงได้เลย  เพราะโจทย์ไม่ได้กำหนดมา  ทำให้ยากต่อการคิดที่เป็นสูตรหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม 1/2 x ฐาน x สูง

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8

พื้นที่สี่เหลี่ยมใหญ่
– (พื้นที่ A + B + C + D) = พื้นที่ที่แรเงา
 
พื้นที่สี่เหลี่ยมใหญ่ เท่ากับ 160 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ A = 80 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ B = 15 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ C = 18 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่ D =  21 ตารางเซนติเมตร
พื้นที่แรเงา = 160-(80+15+18+21)  = 160-134
พื้นที่แรเงา =  26 ตารางเซนติเมตร##

6. การแจกแจงรายการ ( Make a List) 

การแจกแจงรายการเป็นการเขียน รายการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากโจทย์ปัญหาโดยเราต้องคิดแบบมีระบบ สามารถวาดเป็นตารางช่วยในการแจกแจงและจัดระบบความคิด เพื่อนำไปสู่คำตอบ

เช่น นักเรียนกลุ่มหนึ่งต้องการซื้อไม้บรรทัดอันละ 8 บาทดินสอแท่งละ 4 บาทเป็นเงิน 100 บาท ถ้าต้องการไม้บรรทัดอย่างน้อย 5 อัน และดินสอ อย่างน้อย 4 อันจะซื้อไม้บรรทัดและดินสอได้กี่วิธี

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8 เทคนิค

ในตารางจะเป็นการแจกแจงรายการเช่น ถ้าเราซื้อไม้บรรทัด 5 อันราคา 40 บาทจะเหลือเงิน 60 บาทเลยสามารถซื้อดินสอได้ 15 แท่ง
 
ในตารางจะเห็นว่า สามารถเป็นไปได้ตามเงื่อนไข ที่ต้องการไม้บรรทัดอย่างน้อย 5 อันและดินสออย่างน้อย 4 อัน ได้ทั้งหมด 6 วิธี

7.  การตัดออก (Eliminate) 

การตัดออกเป็นการ ตัดคำตอบ ที่ไม่สอดคล้องหรือไม่ตรงกับเงื่อนไขในสิ่งที่โจทย์ถาม เช่นจงหาจำนวนที่หารด้วย 5 และ 6 ได้ลงตัว

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8

จากตารางจะเห็นว่าเราสามารถตัดที่หารด้วย 5 ลงตัวก่อนได้
step 1  ตัดเลขที่หารด้วย 5 ไม่ลงตัวออก ( เลขที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย 0 กับ 5)
 
step 2  เอาตัวเลขที่ได้จาก step 1 มาพิจารณาต่อว่าเลขไหนที่หารด้วย 6 ลงตัวบ้าง
 
ตัวเลขที่ได้ก็เป็นคำตอบ

8. การเปลี่ยนมุมมอง (Chang of view) 

การเปลี่ยนมุมมองเป็นการแก้โจทย์ปัญหาที่มีความซับซ้อน เราจึงต้องเปลี่ยนวิธีคิดเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาให้แตกต่างไปจากเดิม ส่วนใหญ่เทคนิคนี้จะเป็นการ ใช้ในเรื่องของเรขาคณิต โดยการ”ตัด ต่อ เติม ” ที่ครูโอชินสอนเทคนิคนี้ ใน intensive 3

 

เก็บคะแนนเลขง่ายๆด้วย 8


จากรูปจะเห็นว่าเราสามารถพลิกครึ่งวงกลมในแถบด้านล่าง เปลี่ยนมาประกบ กลับแถบด้านบนอีกฝั่งหนึ่งทำให้เรา เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นโดยหาเพียงแค่ พื้นที่วงกลมกลาง – พื้นที่วงกลมเล็ก

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

วิชา ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คืออะไร? จะเตรียมตัวสอบวิชาทักษะวิทย์อย่างไรดี? แนวข้อสอบทักษะวิทย์จะเป็นแบบไหนกันนะ? คำถามเหล่านี้เป็นคำถามยอดฮิตที่ผู้ปกครองของน้อง ๆ ที่มีความตั้งใจจะสอบเข้าโรงเรียนสาธิตประสานมิตรสอบถามกันเข้ามา เพราะไม่รู้ว่าจะต้องจัดการรับมือกับข้อสอบแนวนี้อย่างไร แถมที่โรงเรียนที่เรียนอยู่ก็แทบจะไม่พูดถึง หรือไม่มีชื่อวิชานี้เลยด้วยซ้ำ

บทความนี้ครูแอมจะมาไขข้อข้องใจว่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ทักษะวิทย์” แท้จริงแล้วมันคืออะไร และมีทักษะใดบ้างที่น้อง ๆ จะต้องเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่สนามสอบ

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ในการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปสู่การสืบเสาะค้นหา ผ่านการสังเกต ทดลอง สร้างแบบจำลอง และวิธีการอื่น ๆ เพื่อนำข้อมูลมา
สร้างคำอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดหรือองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์  ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ประกอบด้วย 14 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการสังเกต ทักษะการวัด ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการหาความสัมพันธ์ของสเปซกับเวลา ทักษะการใช้จำนวน ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล ทักษะการพยากรณ์ ทักษะการตั้งสมมติฐาน ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร ทักษะการทดลอง ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป และ ทักษะการสร้างแบบจำลอง

 

เมื่ออ่าน 14 ทักษะข้างต้นครบแล้ว หลาย ๆ คนคงพอจะนึกภาพออกแล้วว่า ทักษะเหล่านี้แฝงอยู่ในวิชาวิทยาศาสตร์ที่น้อง ๆ เรียนกันอยู่ ทั้งในรูปแบบเนื้อหา และการทดลองในห้องปฏิบัติการ  นอกจากนี้ ทักษะเหล่านี้ยังแฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนอยู่แล้วโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว
เช่น เราสามารถบอกได้ว่ามะนาวมีรสเปรี้ยว เพราะเราใช้ทักษะการสังเกตผ่านการรับรสของลิ้น หรือ ถ้าเราเห็นว่าตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีเมฆดำทะมึน เราก็คงต้องเตรียมพกร่มติดตัวไปด้วย เพราะเราใช้ทักษะการพยากรณ์คาดเดาว่าฝนกำลังจะตกแล้วแน่ ๆ

เมื่อรู้จักกับทักษะสำหรับการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์แล้ว สิ่งที่น้อง ๆ ควรต้องรู้เพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง คือ “วิธีการทางวิทยาศาสตร์” ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนที่สำคัญ ดังภาพ


สิ่งที่ผู้ออกข้อสอบต้องการประเมินน้อง ๆ คือ ต้องการประเมินว่าน้อง ๆ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ดี และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับวิธีการวิทยาศาสตร์ได้หรือไม่ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ อยากประเมินว่าน้อง ๆ มีกระบวนการคิดเป็นแบบนักวิทยาศาสตร์หรือไม่ นั่นเอง

ตัวอย่างข้อสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

 

โจทย์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จะเน้นไปที่การนำทักษะวิทย์มาใช้ในการแก้ปัญหาโจทย์ ซึ่งบางครั้งอาจต้องนำความรู้ในด้านเนื้อหาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้ามาประกอบการวิเคราะห์โจทย์ด้วย ดังนั้นน้อง ๆ ต้องอย่าลืมเตรียมความพร้อมของทั้ง 2 วิชานี้ให้ดีด้วยนะคะ (คอร์สสรุปเนื้อหา)

ครูแอมขอยกตัวอย่างโจทย์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้น้อง ๆ ได้เห็นภาพกันชัดเจนขึ้น ลองคิดคำตอบกันก่อนดูเฉลยนะคะ

เราคงรู้กันอยู่ว่าวัสดุบางชนิดมีความสามารถในการกักเก็บความร้อนได้ หากที่บ้านของเรามีวัสดุ
4 ชนิด ได้แก่ กระดาษหนังสือพิมพ์ ฟอยล์ พลาสติกห่ออาหาร และ Bubble กันกระแทก คำถามที่
เกิดขึ้นคือ วัสดุใดกักเก็บความร้อนได้ดีที่สุด นี่คือจุดเริ่มต้นของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (การระบุปัญหา) 

ปัญหานี้สามารถนำมาตั้งเป็นคำถามในข้อสอบได้หลากหลายแนวมาก ตัวอย่างเช่น

โจทย์ทักษะวิทยาศาสตร์ ข้อที่ 1


หลายคนอาจรู้สึกว่าอ่าน ๆ แล้วก็เหมือนจะมีเหตุผลถูกทุกข้อเลย แต่ไม่มี choice ถูกทุกข้อให้เลือกเสียด้วยสิ !

จุดสำคัญที่ต้องยึดเป็นหลักไว้สำหรับการทำข้อสอบลักษณะนี้คือ “สมมติฐานมักเป็นข้อความที่บอกความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นกับตัวแปรตาม”
ตัวแปรต้น (สิ่งที่เราสนใจจะศึกษา) ในการทดลองนี้ คือ ชนิดของวัสดุ
ตัวแปรตาม (ผลที่เกิดจากตัวแปรต้น) ในการทดลองนี้ คือ ความสามารถในการกักเก็บความร้อน

ดังนั้นสมมติฐานที่ถูกต้องจึงควรพูดถึงความสัมพันธ์ของ 2 ตัวแปรนี้ และอย่าลืมว่า สมมติฐานอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เราจะไปพิสูจน์ความถูกต้องกันในผลการทดลอง 

คำตอบที่ถูกต้องของโจทย์ทักษะวิทย์ข้อนี้จึงเป็นข้อ ค. นั่นเอง


เมื่อเรามีสมมติฐานแล้ว ก็ถึงเวลาของการออกแบบการทดลอง ในส่วนนี้ต้องใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ และทักษะการทดลอง 
แล้วข้อสอบทักษะวิทย์จะถามแนวไหนได้บ้าง ไปดูคำถามกัน

โจทย์ทักษะวิทยาศาสตร์ ข้อที่ 2


เทคนิคที่ครูแอมสอนน้อง ๆ เสมอในเรื่องการกำหนดตัวแปรควบคุม คือ “ตัวแปรควบคุมจะเป็นปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่ได้เป็นตัวแปรต้น หรือตัวแปรตาม” เทคนิคนี้ช่วยให้น้อง ๆ ตัด choice ที่ไม่ใช่ออกได้อย่างง่ายดาย สำหรับโจทย์ข้อนี้ choice ที่มีมาให้ทุกข้อนั้นไม่ใช่ทั้งตัวแปรต้นและตัวแปรตาม ดังนั้นปัจจัยทั้งหมดที่ให้มาจึงเป็นสิ่งที่ต้องควบคุมให้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้เกิดอคติ (bias) ในการทดลอง
คำตอบที่ถูกต้องของโจทย์ทักษะวิทย์ข้อนี้จึงตอบข้อ ง. นั่นเอง


เราสามารถออกแบบการทดลองโดยนำน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิเริ่มต้นเท่ากัน ปริมาณเท่ากัน ใส่ลงในแก้วแบบเดียวกันซึ่งหุ้มด้วยวัสดุต่างชนิดกัน แล้ววัดอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ดังภาพ

ผลการทดลองที่ได้ สามารถถูกนำมาตั้งคำถามในลักษณะดังต่อไปนี้

โจทย์ทักษะวิทยาศาสตร์ ข้อที่ 3


การจะตอบคำถามข้อนี้ได้ถูกต้อง น้อง ๆ ต้องมีทักษะการวัด และ ทักษะการใช้จำนวน จึงจะได้คำตอบเท่ากับ 25 องศาเซลเซียส (ข้อ ค.)


 

โจทย์ทักษะวิทยาศาสตร์ ข้อที่ 4


คำตอบ คือ ผลการวัดอุณหภูมิของแก้วที่ห่อด้วยพลาสติกห่ออาหาร ที่เวลา 10 นาที เพราะวัดค่าได้เท่ากับ 25 องศาเซลเซียส แต่ในเวลาต่อมาที่ 15 และ 20 นาทีกลับวัดได้อุณหภูมิสูงขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการให้ความร้อน

คำถามข้อนี้ต้องอาศัยทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล และทักษะการพยากรณ์


 

โจทย์ทักษะวิทยาศาสตร์ ข้อที่ 5

หากนำทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปมาพิจารณาผลการทดลอง เราจะพบว่าที่เวลา 20 นาที น้ำในแก้วที่หุ้มด้วย Bubble กันกระแทกมีอุณหภูมิสูงที่สุด แสดงว่า Bubble กันกระแทกสามารถกักเก็บความร้อนได้ดีที่สุดนั่นเอง ดังนั้นคำตอบที่ถูกต้องของข้อนี้คือ ข้อ ง.


 

การเรียนในห้องเรียน การทำการทดลอง และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากทางโรงเรียน เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนและพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะต่าง ๆ มากขึ้น
ในเบื้องต้นหากน้องมีพื้นฐานเป็นเด็กมีความรับผิดชอบในด้านการเรียน ช่างถาม ใฝ่รู้ใฝ่เรียนเป็น
ทุนเดิมอยู่แล้ว ครูแอมเชื่อว่าน้องต้องมีทักษะเหล่านี้อยู่ในตัวแน่นอน

 แต่เพื่อให้มีความมั่นใจในการเข้าสู่สนามสอบมากขึ้น การฝึกทำโจทย์ที่เน้นเฉพาะประเด็นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวช่วยหนึ่งที่น้องสามารถฝึกฝนได้ก่อนเข้าห้องสอบจริง การทำโจทย์จะทำให้น้องเห็นแนวทางของคำถามที่อาจได้พบในข้อสอบ และได้ฝึกการใช้ทักษะวิทย์กับโจทย์ในรูปแบบต่าง ๆ

ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ทักษะกระบวนการคณิต ประสานมิตร


วันนี้ครูโอชินจะมาอธิบายเรื่องหลักสูตรระดับชั้นป 6 ก่อนอื่นต้องมาดูกันก่อนว่า หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ปี 2551 และ ปี 2560 ว่าเหมือนหรือต่างกันตรงไหนบ้าง? และมันจะไปเกี่ยวโยงกับ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ที่เป็น 1 ใน 6 วิชาที่ใช้สอบเข้าม.1 โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ยังไงไปดูกันเลย

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์   หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

 แบ่งเป็น 6 สาระ 
1. จำนวนและการดำเนินการ 
2. การวัด 
3. เรขาคณิต 
4. พีชคณิต 
5. การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
6. ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

หลักสูตรคณิต 2551

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 แบ่งเป็น 3 สาระ 

1. จำนวนและพีชคณิต
2. การวัดและเรขาคณิต
3. สถิติและความน่าจะเป็น

โดยได้แยก ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ออกจากสาระการเรียนรู้ และแยกย่อยใน ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ออกเป็น 5 ทักษะ

หลักสูตร คณิตป.6 2560


1.  การแก้ปัญหา (problem solving)
2.  การสื่อความหมาย (communication)
3.  การเชื่อมโยง (connection)
4.  การให้เหตุผลและการพิสูจน์ (reasoning and proof)
5.  การคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

ทักษะกระบวนการคิด สาธิตประสานมิตร

สรุปง่ายๆ
หลักสูตรปี 2551  มี 6  ( 5 สาระ + 1 ทักษะ)
หลักสูตรปี 2560 มี  3 + 1  ( 3 สาระ + 1 ทักษะ)

เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของคำว่า  ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพียงแต่เด็กๆจะได้ยินคำนี้น้อยๆมาก ในห้องเรียน ว่า คืออะไร เรื่องอะไร แล้วสอบแบบไหน ครูบอกไว้ก่อนเลยว่า ที่เราโจทย์เลขที่เราเรียนเลขมา ล้วนแต่ใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ แทบทั้งนั้น โจทย์ บางข้อ ใช้ 2  ทักษะ   โจทย์บางข้อใช้ 3 ทักษะ มาดูตัวอย่างกัน

เค้กส้ม 12 ชิ้น ราคา 72 บาท
เค้กลูกเกด 10 ชิ้น ราคา 40 บาท
เค้กช็อกโกแลต 8 ชิ้น ราคา 40 บาท
เค้กชนิดใดราคาถูกที่สุด

ตอบ  เค้กลูกเกด
เหตุผล : เค้กลูกเกดราคา 4 บาท/ชิ้น เค้กส้มราคา 6 บาท/ชิ้น เค้กช็อคโกแลตราคา 5 บาทต่อชิ้น เค้กที่ถูกที่สุดจึงเป็นเค้กลูกเกด
ทักษะที่ใช้ :
1.  การแก้ปัญหา   ต้องรู้และเข้าใจว่าโจทย์ถามหาอะไร เริ่มต้นคิดที่ตรงไหนก่อน
2. การเชื่อมโยง   เมื่อรู้ว่าเค้กแต่ละชนิด 1 ชิ้นราคากี่บาท โดยเราคำนวณจากสิ่งที่โจทย์กำหนดมา
3. การให้เหตุผล  สามารถตอบได้ว่า อันไหนถูกสุด และถูกเพราะอะไร เพราะราคา 4 บาท/ชิ้น

วิชา ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นี้ไม่ยาก!!

บอกเลยข้อสอบไม่ยาก เป็นวิชาที่แจกคะแนนเด็กๆ เพราะวิชานี้ มีข้อสอบรวมกับวิชาวิทย์ 60 ข้อ 60 นาที “ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 30 ข้อ 30 นาที” แต่ถ้าใครยังไม่ชัว ไม่แม่น ว่าข้อสอบจะออกยังไง จะทำได้ไหม อยากรู้แนวข้อสอบเก่า แนวข้อสอบของจริง ที่ครูโอชินได้รวบรวมมา  เด็กๆพบกับครูได้ที่คอร์สออนไลน์ของสถาบัน

แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง 1 ใน 6 วิชาที่ใช้สำหรับสอบเข้าโรงเรียนสาธิตประสานมิตรนั่นคือ “ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ”  โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ทักษะ อ้างอิงตามหลักสูตรกระทรวงปีล่าสุด 2560 ดังนี้

1. การแก้ปัญหาเป็นความสามารถในการทำความเข้าใจปัญหาคิดวิเคราะห์วางแผนแก้ปัญหาและเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบพร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้อง

2. การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถในการใช้รูปภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสารสื่อความหมายสรุปผลและนำเสนอได้อย่างถูกต้องชัดเจน

3. การเชื่อมโยงเป็นความสามารถในการใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้คณิตศาสตร์เนื้อหาต่างๆหรือสัตว์อื่นๆและนำไปใช้ในชีวิตจริง

4. การให้เหตุผลเป็นความสามารถในการให้เหตุผลรับฟังและให้เหตุผลสนับสนุนหรือโต้แย้งเพื่อนำไปสู่การสรุปโดยมีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ

5. การคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถในการขยายแนวคิดที่มีอยู่เดิมหรือสร้างแนวคิดใหม่เพื่อปรับปรุงพัฒนาองค์ความรู้

เราดูตัวอย่างโจทย์ด้านบนกันมาแล้ว  คราวนี้มาดูตัวอย่างโจทย์ที่แยกไปตามแต่ละทักษะกันบ้างดีกว่า

1. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านการแก้ปัญหา

การพัฒนาทักษะและกระบวนการแก้ปัญหาเริ่มต้นน้องๆต้องเข้าใจกระบวนการแก้ปัญหาที่มีอยู่ 4 ขั้นตอนเปรียบเสมือน “อริยสัจ 4 ทุกข์  สมุทัย นิโรธ มรรค ”  รู้ปัญหา  วางแผนแก้ไขปัญหา  ทำการแก้ปัญหา   ตรวจสอบ

เห็นไหมว่าวิชาคณิตศาสตร์เอาไปเชื่อมโยงกับวิชา สังคมศึกษาได้เหมือนกันนะเนี่ย ลองมาดูตัวอย่างของการแก้ปัญหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับไก่และกระต่าย

ข้อนี้บอกเลยว่าไม่ยากแล้วก็ไม่ง่าย ข้อสอบคณิตศาสตร์ทั่วไปไม่ต้องพูดถึงทักษะกระบวนการคิดสำหรับสาธิตประสานมิตรก็สามารถเจอข้อสอบคณิตศาสตร์สอบเข้าม. 1 ข้อนี้ได้

ทักษะกระบวนการคิดคณิตศาสตร์

ครูโอชินมี 2  วิธีเทคนิคการคิด
1. ใช้สมการ เราสามารถสมมติไก่ให้เป็น x ตัว ส่วนกระต่าย เป็น 30 – x ตัว และแก้สมการดังรูปต่อไปนี้ เราก็จะได้ค่า x มาทำให้รู้ จำนวนของกระต่ายและไก่
ดังรูป ใครทำสมการคล่องแล้ว แก้สมการได้คำตอบ จบเลย
ใครไม่แม่นสมการ เรียนเชิญคอร์ส intensive 1 (สำหรับป.6..ดูที่นี่..) Fundamental 2 (สำหรับป.5 ..ดูที่นี่..)

2. ใช้การวาดรูป
ก่อนอื่นเราต้องวาดกลมๆ ทั้งหมด 30 กลมๆเพื่อเป็นตัวแทนของสัตว์ที่เราเลี้ยง จากนั้นเราก็ใส่ขาให้ทุกตัวก่อน ตัวละ 2 ขา (สีแดง)   เราใส่ไป 60 ขาละแต่เรามีทั้งหมด 86 ขา  เพราะฉะนั้นเรายังเหลืออีก 26 ขา  ที่ต้องวาดใส่เข้าไป  26 ขา (สีน้ำเงิน) สามารถเอาไปใส่ได้อีก 13 ตัว  ดูจากรูป  เราก็จะรู้เลยว่ามีกระต่ายกี่ตัวและมีไก่กี่ตัว


เพิ่มเติมการแก้โจทย์ปัญหาในข้อนี้ น้องๆที่ ไม่รู้วิธีคิด 2 แบบแรกก็จะใช้ การสมมติมั่วๆ ใครโชคดีสมมุติไม่กี่ตัวเลขก็ได้เลย รักใครโชคไม่เข้าข้างหน่อยอาจจะสมมติหลายตัวเลขทำให้เสียเวลาในการคิด ครูโอชินแนะนำโรงเรียนรู้รูปแบบการแก้โจทย์ปัญหาสมการในเรื่องจำนวนขาสัตว์และหัวสัตว์ใน 2 เทคนิคการคิดด้านบนดีกว่าค่ะ เพราะสามารถเอาไปใช้ในการทำโจทย์คณิตศาสตร์สอบเข้าม 1

2. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านการสื่อสารและการสื่อความหมาย

การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ เป็นการสื่อสาร ที่มีการใช้สัญลักษณ์ตัวแปร  ตารางกราฟ  สมการ  มาช่วยในการสื่อความหมาย แทนทักษะการสื่อสารที่เราใช้กันทั่วไป  การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน เพื่อแก้ไขโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ มาดูตัวอย่างโจทย์กัน

อยากทราบว่ามาลีควรจ้างลูกจ้างคนใดทำงาน a b c เสร็จ แล้วจ่ายเงินน้อยที่สุดและถ้ามาลีต้องการรับลูกจ้าง เพื่อทำงาน a b c ทั้ง 3 อย่างเพียงคนเดียวเขาควรจะรับลูกจ้างคนใดเข้าทำงานจึงจะจ่ายเงินน้อยที่สุด

ตอบ งาน a จ้าง นิด  
        งาน b จ้าง น้อย
        งาน c จ้าง หน่อย
ถ้าจ้างคนเดียวทำทั้ง 3 งาน ควรจ้างนิดเพราะทำงานทั้ง 3 อย่างในราคา 140 บาท

จะสังเกตเห็นว่าเราใช้ตารางในการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์เพื่อตีความสิ่งที่โจทย์กำหนดมาให้และแก้ไขปัญหาโดยใช้รูปแบบความสัมพันธ์ของตัวแปรที่โจทย์กำหนดให้มาเพื่อหาคำตอบ


3. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านการการเชื่อมโยง

การเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ ละความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการนำความรู้เนื้อหาทางคณิตศาสตร์ มาสร้างความสัมพันธ์ เข้ากับศาสตร์อื่นๆ สถานการณ์หรือในชีวิตประจำอย่างเป็นเหตุเป็นผลกัน เช่น เรื่องการเงิน การคิดดอกเบี้ย ทบต้นทบดอก งานศิลปะ (ประยุกต์ใช้รูปเรขาคณิตในการวาด การออกแบบ)

 

ก่อนอื่นบอกเลยคำถามนี้มีได้หลายคำตอบด้วยกันขึ้นอยู่กับว่าใครเอาอะไรเป็นเกณฑ์วัดและบอกเหตุผล ที่เป็นเหตุเป็นผลกัน  รวมถึงเชื่อมโยงปัจจัยอื่นๆเข้าด้วยกัน  สมมุติมีเด็กอยู่ 3 คน  

คนที่ 1 ตอบว่าควรเช่าที่ดินของนายสุขใจ เพราะมีค่าใช้จ่ายรายปี 50,400 บาท โดยได้ที่ดินมากกว่าที่กำหนดไว้อีก 1 งาน  

คนที่ 2  ตอบว่าควรเช่าที่ดินของนางทองสุข ค่าเช่า 2 ไร่ (8 งาน) ราคา 4,000 บาทต่อเดือน  เป็นเงิน 48,000 บาท / ปี ซึ่งถูกกว่าราคาเช่าของนายสุขใจ  

คนที่ 3 ตอบว่าคนเช่าที่ดินของ นาย สุขใจเพราะเมื่อคิดค่าเช่า งานละ 466.66 บาท/เดือน ของนางทองสุขค่าเช่างานละ 500 บาท/เดือน นายสุขใจราคาน้อยกว่านางทองสุข

จะเห็นว่าเด็กทั้ง 3 คน มีการคิดเชื่อมโยงระหว่างตัวเลขทางคณิตศาสตร์กับเหตุและผลในการเช่าที่ดิน แต่เราสามารถนำปัจจัยอื่นๆมาพิจารณาร่วมกันก็ได้เช่น โลเคชั่น การเดินทางเข้าออก การเข้าถึง ของสาธารณูปโภคต่างๆ เพราะฉะนั้นคำตอบของปัญหาอาจมีมากกว่า 1 คำตอบขึ้นอยู่กับการให้เหตุผลเชื่อมโยง องค์ประกอบอื่นๆที่สมเหตุสมผลด้วยเช่นเดียวกัน

4. ทักษะกระบวนกาทางคณิตศาสตร์ ด้านการให้เหตุผล

การให้เหตุผลเป็นทักษะและกระบวนการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักคิดอย่างมีเหตุผลคิดอย่างเป็นระบบสามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบสามารถคาดการณ์วางแผนตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ที่สามารถนำไปใช้พัฒนาตนเองในการเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานและการดำรงชีวิตได้

เด็กคนที่ 1   อาจจะตอบว่าไม่สามารถหาคำตอบข้อนี้ได้เพราะว่าโจทย์กำหนดความลึกของน้ำโดยเฉลี่ย 1.3 เมตร ตรงตำแหน่งที่ไม้ปักอยู่   เราไม่สามารถทราบความลึกของน้ำที่แน่นอนตรงนั้น   จึงไม่สามารถหาความยาวของไม้ส่วนที่ปักอยู่ในดินได้ คำตอบนี้ก็ถือว่าถูกต้องสมเหตุสมผล เช่นเดียวกัน แต่ถ้า คุณครูบอกว่า น้ำลึก 1.3 เมตร  โดยตัดคำว่าโดยเฉลี่ยออกไป  คำตอบที่ได้ก็จะเป็นดังรูปด้านล่าง

เริ่มต้นคำนวณหาความยาวไม้ไผ่ส่วนที่อยู่เหนือน้ำ
คิดเป็น 1 ใน 3 ของ 2.85 = 0.95 m  

ความยาวของไม้ไผ่ที่อยู่ในน้ำ 1.3 เมตร  

รวมความยาวไม้ไผ่ ที่อยู่เหนือน้ำจนถึงก้นบ่อ 0.95+1.3 = 2.25 เมตร  

เราเลยหาค่าของไม้ไผ่ที่อยู่ในดินได้ 0.6 เมตร

5. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านการคิดสร้างสรรค์

การคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดที่อาศัยความรู้พื้นฐานจินตนาการและวิจารณญาณ ในการพัฒนาหรือคิดค้นองค์ความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนมีแนวทางการคิดที่หลากหลายมีกระบวนการคิดจินตนาการ  ในการประยุกต์ที่จะนำไปสู่การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่และมีคุณค่า ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีนิสัยกระตือรือร้น  ไม่ย่อท้อ   อยากรู้อยากเห็น   อยากค้นคว้าและทดลองสิ่งใหม่ๆ

“ปัญหาปลายเปิด” ช่วยส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้เรียน 

ปัญหาปลายเปิดเป็นปัญหาที่มีคำตอบหลายคำตอบหรือมีแนวคิดวิธีการในการหาคำตอบได้หลายอย่างเป็นปัญหาที่ช่วยส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของนักเรียน เมื่อมีคนหนึ่งได้คำตอบแล้ว ก็ สามารถหาคำตอบอื่นๆจากนักเรียนที่เหลือได้เป็นการ แชร์มุมมองแนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาโจทย์ที่หลากหลาย

การจะเป็นสามเหลี่ยมได้นั้น  “สั้นบวกสั้นมากกว่ายาวเสมอ”

ข้อนี้น้องๆจะต้องใช้ความรู้เรื่องเรขาคณิตมาช่วยในการแก้โจทย์ปัญหา และสร้างเป็นตารางดังรูปด้านข้าง สามารถใช้ทักษะ การสื่อสารและสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ที่เป็นตารางมาช่วยในการแก้โจทย์ปัญหาข้อนี้ หลักการของข้อนี้มีอยู่อันเดียวคือการจะเป็นสามเหลี่ยมได้นั้นสั้นบวกสั้นมากกว่ายาวเสมอ

จะสร้างรูปสามเหลี่ยมที่แตกต่างกันได้ทั้งหมด 4 แบบได้แก่แบบที่   4   5   6   7   ในแบบที่ 1-3 ด้านสั้นบวกด้านสั้นจะไม่เท่ากับด้านยาวเลยไม่สามารสร้างเป็นสามเหลี่ยมได้

ลดราคา!
Original price was: ฿16,300.Current price is: ฿11,900.
ลดราคา!
Original price was: ฿11,700.Current price is: ฿7,500.
สินค้าหมดแล้ว
฿15,500
ลดราคา!
ลดราคา!
Original price was: ฿16,300.Current price is: ฿11,900.
ลดราคา!
ลดราคา!
Original price was: ฿16,300.Current price is: ฿11,900.
ลดราคา!
Original price was: ฿20,300.Current price is: ฿10,900.

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เตรียมตัวยังไงให้สอบติด

เตรียมตัวยังไงให้สอบติด โรงเรียนสาธิต

1. เลือกคอร์สเรียนที่มุ่งเน้น เจาะจง และครอบคลุมเนื้อหาสำหรับสอบสาธิตโดยตรง เรียนเนื้อหาที่เข้มข้นและลึกซึ้งและครอบคลุมเนื้อหาระดับชั้นตั้งแต่ป.4-6 และเรียนเนื้อหาเนื้อเกินหลักสูตรบ้าง และน้องๆควรเลือกเรียนเพื่อนำไปใช้สอบได้จริง ทำคะแนนสอบได้พุ่งกระฉูด แต่ข้อสอบสาธิตปทุมวันก็ไม่ได้เกินหลักสูตรทุกข้อ มีทั้งเกินหลักสูตร และอยู่ในหลักสูตร (แต่ก็ซับซ้อนมากๆ)
คำถามที่ผู้ปกครองมักถามเสมอว่า เกินหลักสูตรไปถึงชั้นไหน? ม.3 เลยรึเปล่า?… บอกได้เลยว่าไม่ใช่ สำหรับข้อสอบสาธิตปทุมวัน การออกเกินหลักสูตรโดยส่วนใหญ่นั้น แม้จะออกลึกเกินเนื้อหาป.6 แต่ยังอยู่ในหัวข้อ ป.6 อยู่ (พูดง่ายๆกว่าหัวข้อยังอยู่ในป.4-ป.6 แต่ความลึกของเนื้อหาไประดับม.ต้น) ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นนักเรียน ป.6 ต้องเรียนเรื่องสามเหลี่ยม ซึ่งโดยพื้นฐาน เด็กๆมักรู้เพียงแค่สูตรหาพื้นที่สามเหลี่ยม คือ 1/2xสูงxฐาน แต่จริงๆเนื้อหาอาจออกลึกไปถึงเรื่องสามเหลี่ยมมุมฉากปีทาโกรัส หรือไปถึงเรื่องสามเหลี่ยมคล้าย ซึ่งจะสอนปกติตอนม.ต้นนั่นเอง (เลือกคอร์สเรียนที่เน้นเข้าสาธิตโดยเฉพาะ)

2. เรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ มีเทคนิคและสไตล์การสอนเฉพาะตัว ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน การเรียนกับคุณครูที่สอนเข้สาธิตโดยเฉพาะก็เป็นอีก 1 วิธีที่น้องจะได้รับเนื้อหาที่สามารถนำไปใช้สอบได้จริง และด้วยคุณครูที่มีสไตล์ในการสอนที่น่าจดจำ น้องๆจะไม่เบื่อกับการเรียนพิเศษเลย บวกกับการมีเทคนิคการสอนใหม่ๆมาสอนน้องเสมอ บางเรื่องที่จำยากก็กลายเป็นเรื่องหมูๆในพริบตา เพิ่มคะแนนสอบของน้องได้ง่ายขึ้นแย่างน่าเหลือเชื่อ

3. จัดสรรเวลาเรียนที่มีอย่างจำกัด ให้คุ้มค่าทุกวินาที ไม่ว่าน้องๆจะเรียนพิเศษที่เป็นคลาสสดหรือคลาสออนไลน์ ก็ต้องจัดสรรเวลาที่มีอยู่ให้ดี เพราะเวลาที่เรานั่งเล่นเกมอยู่ หรือดูการ์ตูนอยู่ ก็อาจจะมีเพื่อนๆอีกไม่น้อยที่นั่งทำโจทย์หรืออ่านหนังสือทบทวนบทเรียน น้องบางคนชอบมาเรียนสด เพราะได้เจอเพื่อน มีคำถามตรงไหนก็สามารถสอบถามคุณครูได้ทันที แต่น้องคนไหนที่ไม่สะดวกเรื่องการเดินทางการเรียนออนไลน์จะช่วยให้น้องๆมีเวลาเรียนรู้ได้กว้างขึ้น เรียนที่ไหนก็ได้ ทุกเวลา ไม่ต้องเดินทางมาเรียน ทำให้ประหยัดพลังงาน แต่แน่นอนว่าทั้งสองแบบนั้นเป็นการจัดสรรและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แน่นอนค่ะ

4. ตั้งใจและทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ และอย่างกระตือรือร้น เข้าใจทุกเนื้อหาอย่างถ่องแท้ ไม่เข้าใจตรงไหน สอบถามคุณครูทันทีหากปล่อยผ่านอาจจะไปเจออีกทีในห้องสอบ และจะทำไม่ได้ พลาดคะแนนฟรีเลยนะคะหมั่นทำโจทย์อยู่เสมอ การฝึกทำโจทย์จะช่วยให้น้องๆ ได้ลองใช้สูตร เจอกับโจทย์จริงๆ ได้ลองทำโจทย์บ่อยๆ หลายๆ แบบน้องๆจะเริ่มมีเทคนิคและสามารถพลิกแพลงแก้โจทย์ที่หลากหลายได้ด้วยตัวเอง เวลาลงสู่สนามสอบจริงจะได้มั่นใจในการทำข้อสอบสุดๆไปเลย

5. สร้างแรงบันดาลใจให้น้องเรียนออนไลน์อย่างมีเป้าหมาย มีของรางวัลเล็กๆน้อยๆให้ได้ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่ง ที่จะส่งเสริมให้น้องเกิดมีแรงจูงใจ ถึงจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ย่อมทำให้น้องเกิดความตั้งใจ และมีกำลังใจที่จะเรียนมากขึ้น


บทสัมภาษณ์ Exclusive.. เผยเคล็ดลับขั้นเทพ เตรียมตัวยังไงให้สอบติด สาธิตประสานมิตร โดยพี่นัท และพี่ซัน ผู้สอบติดประสานมิตรมาแล้ว

เตรียมตัวยังไงให้สอบติด

Bigbrain  : แนะนำตัวเองกันหน่อยจ้า

ซัน  : ผมชื่อเด็กชายพิชภพ บุนนาค จบชั้น ป.6 จากสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงปัจจุบันเรียน ม.1 โรงเรียน สาธิตประสานมิตร หลักสูตรอินเตอร์ครับ
นัท  : หนูชื่อเด็กหญิงณัฐวดี เชาอณาจิน มาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์  ตอนนี้เรียน ม.1 โรงเรียน สาธิตประสานมิต หลักสูตรปกติค่ะ


Bigbrain  : ได้เรียนที่ สาธิตประสานมิตรมาจะครบปีแล้วรู้สึกชอบอะไรในโรงเรียนนี้บ้าง

ซัน  : ผมชอบที่โรงเรียนนนี้เป็นโรงเรียนชิวๆอ่าครับ ไม่มีกฏระเบียบมากมาย ไว้ผมยาวได้ เถียงครูได้(ล้อเล่นนะครับ 55)แล้วก็มีกิจกรรมเยอะทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ
นัท : ส่วนนัทประทับใจอาจารย์ที่นี่มากคะ อาจารย์ที่นี่ใส่ใจดูแลเด็กนักเรียนดีมากกกกก  แล้ววิชาการที่นี่ก็สอนเข้มข้นมาก เพราะเคยลองเอาหนังสือเรียนที่นี่ไปเปรียบเทียบกับเพื่อนในโรงเรียนอื่นที่ สาธิตประสานมิตรสอนเข้มกว่ามากคะ


Bigbrain  : แล้วทำไมถึงอยากสอบเข้า สาธิตประสานมิตร

ซัน  : เดิมผมเรียน EP มาอยู่แล้วฮะ พอจะสอบเข้า ม.1 ก็เลยอยากเรียนที่เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษต่อ แล้วพอเสิร์ชหาข้อมูลแล้วเจอสาธิตประสานมิตรที่เป็นโรงรียนสาธิตที่เปิดหลักสูตร inter แบบจริงจังเป็นที่แรก ผมคิดว่ามันน่าจะเจ๋งมากก็เลยอยากมาเรียนที่นี่

Bigbrain  : บร๊ะะ !!! แล้วนัทล่ะจ๊ะทำไมถึงอยากสอบเข้าที่นี่จ๊ะ

นัท : หนูได้ยินจากรุ่นพี่หลายๆคนเล่าให้ฟังว่าโรงเรียนนี้วิชาการดีมาก ครูดี สังคมดี แล้วแม่ก็อยากให้เข้าที่นี่ด้วยเพราะเดินทางสะดวก หนูก็เลยเริ่มตั้งใจเริ่มเตรียมตัวสอบตั้งแต่ ป.5 เลยค่ะ


Bigbrain  : แล้วพวกเราแต่ละคนมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ซัน  : ปกติผมเรียนพิเศษมาตลอดอยู่แล้วครับ แต่เรียนแบบเรื่อยๆชิวๆไม่ซีเรียสอะไรมากแต่พอมาได้เรียนกับครูชัยตอน  ป.6 ที่ Bigbrain ก็ตั้งใจเรียนมากขึ้น เรียนพิเศษหนักขึ้น อย่างวันเสาร์ก็เรียนที่ Bigbrain ประจำ วันอาทิตย์ก็ต้องออกมาเรียนคอร์สภาษาอังกฤษสำหรับสอบเข้า inter อีก นี่ยังไม่นับเรียนพิเศษที่อื่นอีกนะครับ
นัท : ส่วนหนูเริ่มเรียนพิเศษจริงๆตอน ป. 5 ค่ะ ก็เรียนทุกวิชาที่ใช้สอบเลยแล้วก็ลองเรียนมาหลายที่ แต่พอมาเจอที่นี่ก็ชอบมากคะ แล้วก็ตอน ป.6 ก็เรียนที่นี่มาโดยเป็นหลักตลอด แล้วก็ต้องอ่านหนังสือทุกวันเหมือนกัน หนูจะตื่นตั้งแต่ตีห้ากว่าๆ อ่านหนังสือหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน ตอนเย็นกลับมาก็รีบทำการบ้าน รีบอาบน้ำทานข้าว ก็จะมีเวลาอ่านอีก 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน


Bigbrain  :  แล้วมารู้จัก Bigbrain ได้ไงเอ่ย?

ซัน  : พอผมอยากสอบเข้า สาธิตประสานมิตรอย่างจริงจัง ก็เลยเสิร์ช google หาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบมากขึ้น แล้วพอดีได้ เห็นเว็บ bigbrain ขึ้นเป็นเว็บแรก  ก็เลยคลิ๊กเข้ามาอ่านดู เห็นข้อมูลแน่นมากแล้วก็คอร์สน่าเรียนมาก ก็เลยขอแม่ลองมาสมัครเรียนดูครับ
นัท : ส่วนหนูจริงๆ หนูไม่รู้จักที่นี่อ่าคะ พอดีแม่อยากรู้ว่าปกติโรงเรียนสาธิตจะสอบกี่วิชาบ้าง ก็เลยลอง เสิร์ชหาข้อมูลดู ก็เจอเว็บ bigbrain เหมือนกันก็เลยคลิ๊กเข้ามาดู แล้วพอดีตอนนั้นที่โรงเรียนจัดสัมมนาผู้ปกครองอะไรสักอย่างอยู่พอดี แม่ก็เลยมานั่งฟัง แล้วคุณแม่ชอบมากเลยกลับมาบอกหนู ให้หนูมาเรียนที่นี่


Bigbrain  : คิดว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เราสอบเข้า สาธิตประสานมิตรได้

ซัน  : ความอดทนครับ ผมว่าถ้าจะเรียมตัวสอบแบบเอาจริง มันจะเหนื่อยมาก ซึ่งต้องใช้ความอดทนมาก ถ้าเราอดทนสามารถจนถึงจุดหนึ่งได้จนสอบติดได้ มันก็คุ่มค้า เหนื่อยแต่มันก็คุ้มครับ
นัท : หนูว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แรงบันดาลใจคะแรงบันดาลใจที่เราอยากจะสอบได้จริงๆ ถ้าเรามีสิ่งนี้ เวลาไปเรียนพิเศษเราก็อยากจะตั้งใจเรียน เวลากลับบ้านเราก็อยากจะอ่านหนังสือ เวลาเหนื่อยก็จะมีกำลังใจอ่านหนังสือต่อค่ะ


เตรียมตัวยังไงให้สอบติด

Bigbrain  :  สุดท้ายมีอะไรฝากถึงน้องๆที่อยากเข้าสาธิตประสานมิตรบ้าง

ซัน  : ก็อยากเชิญชวนน้องๆให้มาสอบโรงเรียน สาธิตประสานมิตรกันเยอะๆนะครับเพราะเป็นโรงเรียนที่ดีจริงๆ โดยเฉพาะหลักสูตร inter เรียนที่นี่เหมือนได้เรียนที่อังกฤษเลย แบ่งเป็น 3 เทอมเหมือนกัน หลักสูตรเหมือนกันทุกประการ เรียนที่นี่แล้วแฮปปี้มากครับ
นัท : ใช่คะ เรียนที่นี่มีความสุขมาก ทำให้หนูอยากไปโรงเรียนทุกวันเลย ส่วนเรื่องการเตรียมตัว ก็อยากฝากน้องๆว่า การเลือกที่เรียนพิเศษต้องเลือกที่ดีๆ ส่วนตัวยอมรับว่าเรียนพิเศษมาหลายที่ตั้งแต่เด็ก แต่ที่สอนไม่ตรงแนวข้อสอบทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ แต่พอหนูมาเรียนที่นี่แล้วเอาไปใช้สอบหนูพูดได้เลยว่าที่นี่สอนตรงมากคะ แล้วที่ครูชัยย้ำกับพวกเราเสมอคือ เวลาเรียนพิเศษการตั้งใจเรียนในห้องว่าสำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการกลับไปทบทวนบทเรียนทุกเรื่องที่บ้าน โจทย์เลขก็ต้องกลับไปทำซ้ำทุกข้อ ยิ่งเรื่องยากต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ นี่แหละค่ะเคล็ดลับของหนู ขอให้น้องทุกคนโชคดีนะคะ แล้วเจอกันที่โรงเรียนค่ะ


พี่แพงเผยเคล็ดลับขั้นเทพสู่รุ่นน้อง….. ทำอย่างไรให้สอบติดสาธิตปทุมวัน

Bigbrain  : แนะนำตัวเองกันหน่อยจ้า

แพง  : ชื่อเด็กหญิงแพงพธู โนวังหาร มาจากโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา สอบติด ม.1 โรงเรียนสาธิตปทุมวันหลักสูตรปกติค่ะ


Bigbrain  : ความประทับใจที่ได้เรียนที่ BigBrain

แพง  : การได้เรียนที่ Big Brain คุณครูสอนเข้าใจทุกท่านเลยค่ะ ใจดี แถมมีเคล็ดลับดีๆ สำหรับการสอบเขาสาธิตค่ะ แพงเรียนที่นี่ตั้งแต่ป.5 ตั้งแต่คอร์ส Fundamental จนถึงคอร์สตะลุยโจทย์เลยค่ะ ตั้งใจเรียนตลอดค่ะ มาทำความฝันให้เป็นจริงกับ Big Brain กันนะคะ


Bigbrain  : มีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างถึงสอบติดสาธิต

แพง  : หลักๆเลยก็เรียนพิเศษกับที่บิ๊กเบรนค่ะ เพราะว่าไม่ได้เรียนพิเศษที่อื่นเลยค่ะ ปกติจะเข้าเรียนทุกครั้งที่มีเรียนเลยค่ะ ใกล้สอบก็จะอ่านหนังสือทบทวนทุกเล่ม และทุกคอร์สของบิ๊กเบรนเลยค่ะ ตอนเย็นกลับมาก็รีบทำการบ้าน แล้วคุณแม่ก็ชอบหาโจทย์มาให้ทำบ่อยๆทุกวัน เพราะว่าหากเราได้ฝึกทำโจทย์ที่หลากหลายแนว เวลาเจอข้อสอบของจริง เวลาโจทย์ถามแนวไหนก็จะได้ทำได้ หลังทำโจทย์เสร็จก็จะมีเวลาเล่นเกมนิดหน่อยค่ะ


Bigbrain  :สุดท้ายมีเคล็ดลับอะไรให้น้องๆบ้างคะลูก ( เดี๋ยวน้องๆจะได้เรียนกันต่อแล้วค่า >< )

แพง  : เคล็ดลับของแพงก็คือตั้งใจเรียนที่โรงเรียน และตั้งใจฟังที่พี่ๆสอนที่บิ๊กเบรนค่ะ เพราะข้อสอบก็ออกจากเนื้อหาที่เรียนเลยค่ะ ทบทวนและอ่านหนังสือบ่อยๆ หาโจทย์มาทำเพิ่มเติมเยอะๆ หากมีคำถามก็สอบถามคุณครูได้เลยค่ะ

ที่ตั้งสถาบัน

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่

เปิดเสาร์-อาทิตย์
เวลา 08.00-17.00

LINE ID : @bigbrainonline
หรือ กดที่นี่